ข่าว

กองทัพบก ออกวิทยุด่วน สั่งเคอร์ฟิว "หน่วยทหาร-บ้านพัก" เข้า-ออกได้เเค่ ตี 5-3ทุ่ม

กองทัพบก ออกวิทยุด่วน สั่งเคอร์ฟิว "หน่วยทหาร-บ้านพัก" เข้า-ออกได้เเค่ ตี 5-3ทุ่ม

24 เม.ย. 2564

กองทัพบก ออกวิทยุด่วน สั่งเคอร์ฟิว "หน่วยทหาร-บ้านพัก" เข้า-ออกได้เเค่ ตี 5-3ทุ่ม ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด พร้อมยกระดับมาตรการในหน่วย-บ้านพักราชการ ควบคุมให้สูงขึ้น ส่งเอกสารทางอีเมล์-ไลน์ ห้ามเลี้ยงสังสรรค์-ทานอาหารร่วมกับเพื่อนบ้าน

หลังจากที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) สั่งการให้กำลังพล Work from home ตามนโยบายรัฐบาลแล้ว แต่ยังมีกำลังพลและครอบครัวติดเชื้อโควิด-19 นั้น 

ล่าสุด มีรายงานว่า พลโท มานัสชัย ศรีประจันทร์ เจ้ากรมกำลังพลทหารบก ได้สั่งให้ออกหนังสือวิทยุราชการทหารด่วนที่สุด ได้สั่งให้ออกหนังสือวิทยุราชการทหารด่วนที่สุด  อ้างถึง วิทยุราชการทหาร ที่ กห.401/460 ลงวันที่ 11 เม.ย. 2564 และ วิทยุราชการทหาร กพ.ทบ. ด่วนที่สุด ที่ กห.401/569 ลงวันที่ 19 เม.ย. 2564 ให้หน่วยขึ้นตรงกองทัพบกและหน่วยรอง รวมถึงบ้านพักของทางราชการ จำกัดทางเข้า-ออก ให้เหลือ 1 ช่องทาง หรือให้น้อยที่สุด

กองทัพบก ออกวิทยุด่วน สั่งเคอร์ฟิว \"หน่วยทหาร-บ้านพัก\" เข้า-ออกได้เเค่ ตี 5-3ทุ่ม

กองทัพบก ออกวิทยุด่วน สั่งเคอร์ฟิว \"หน่วยทหาร-บ้านพัก\" เข้า-ออกได้เเค่ ตี 5-3ทุ่ม

และให้มีการตรวจคัดกรองบุคคลที่ผ่านเข้า-ออก อย่างเคร่งครัด รวมทั้งกำหนดเวลาในการเข้า-ออก ในระหว่างเวลา 05.00-22.00 น. (คำสั่งเดิม) ทั้งยังห้ามจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รับประทานอาหารร่วมกันระหว่างเพื่อนบ้าน และกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่ม ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด จึงได้เน้นย้ำการปฏิบัติตนของกำลังพลและครอบครัว ที่พักอาศัยในบ้านพักของทางราชการ และหน่วยทหารเพิ่มเติม

ทั้งนี้ วันที่ 24 เมษายน 2564 มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเวลาในการเข้า-ออก หน่วยทหารและบ้านพักของทางราชการ จากเดิม 05.00-22.00 น. เป็น 05.00-21.00 น. และหากผู้ว่าราชการจังหวัดใด ประกาศมาตรการควบคุมโรคฯ ที่เข้มข้นขึ้น ให้ผู้บังคับหน่วยซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดนั้น พิจารณายกระดับมาตรการต่างๆ ของหน่วย และบ้านพักของทางราชการ เพื่อควบคุมให้สูงขึ้นไม่น้อยกว่าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นๆ ประกาศ

ส่วนการเดินทางออกนอกพื้นที่ กทม. หรือจังหวัดหนึ่งไปยังอีกจังหวัดหนึ่ง (เว้นการเดินทางระหว่างพื้นที่ กทม. และปริมณฑล) ให้กระทำได้เฉพาะกรณีการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งเท่านั้น เช่น การเดินทางไปราชการ การสับเปลี่ยนกำลังของหน่วย หากไม่มีคำสั่ง ให้กำลังพลทุกระดับปฏิบัติหน้าที่ในที่ตั้งปกติ ยกเว้นการลากิจที่จำเป็น เร่งด่วน ฉุกเฉิน ให้รายงานขออนุญาตต่อผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจโดยตรงเท่านั้น

ขณะที่การนำส่งเอกสารทางราชการ ให้พิจารณาใช้การจัดส่งฯ ผ่านช่องทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) หรือทางแอปพลิเคชัน เช่น ไลน์ (LINE) ระหว่างเจ้าหน้าที่ให้มากที่สุด และหลีกเลี่ยงการส่งเอกสารฯ ด้วยวิธีพลนำสาร โดยผู้บังคับหน่วย จะต้องกำกับดูแลการนำส่งฯ ไม่ให้มีการรั่วไหลของเอกสารโดยเด็ดขาด และให้หน่วยยึดถือปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หากสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ คลี่คลาย และสามารถผ่อนปรนข้อห้ามการปฏิบัติได้เมื่อใด จะแจ้งให้ทราบต่อไป