อธิบดีกรมเจ้าท่า แจ้งความดำเนินคดี นายทุนลอบตัดเรือเหล็กปากอ่าวแม่น้ำแม่กลอง
เจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 พบเรือเหล็กขนาดใหญ่ จอดตัดปากอ่าวแม่น้ำแม่กลอง อธิบดีสั่งเฉียบระงับการตัดเรือ พร้อมแจ้งความดำเนินคดีเจ้าของ และลูกเรือ 3 ข้อหา ใช้เรือโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่แจ้งเข้าเมืองท่า และตัดเรือโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากกรณี เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า ได้รับรายงานจาก สำนักงาน เจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 ว่า ได้มีนายทุนนำเรือสินค้าขนาดใหญ่ มาจอด ลักลอบตัดเรือเป็นเศษเหล็ก บริเวณหน้าปากอ่าวแม่น้ำแม่กลอง ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ชาวประมงพื้นบ้านเป็นอย่างมาก จึงได้สั่งการให้ นายภูเมศ สุขม่วง ผู้จัดการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 นายทวีชัย โชคสมุทร รักษาการ ผู้จัดการ ฝ่ายสืบสวน และ นายนิพนธ์ พรเจริญ เจ้าหน้าที่ช่างกล ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบเรือชื่อมงคลสมุทร 8 หมายเลขทะเบียน 480002311 ขนาด 1993.0 ตันกรอส โดยมีบริษัท พี.ไอ.เอ็น.เค.ขนส่งและการค้า จำกัด เป็นเจ้าของเรือ ปรากฎว่าใบอนุญาตใช้เรือหมดอายุวันที่ 09/07/2562 และจากการตรวจสอบระบบ NSW ไม่พบการแจ้งเข้าเมืองท่า
ต่อมา จ่าโท ปกรณ์ แสงมณี นิติกรปฎิบัติการ กรมเจ้าหน้า ได้รับมอบหมายจากกรมเจ้าท่าให้แจ้งความดำเนินคดี จึงได้เข้าพบ พ.ต.ต.ธราเทพ จันทสิษฐ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษ กับ ใน 3 ข้อหาได้แก่ ใช้เรือโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่แจ้งเข้าเมืองท่า และตัดเรือโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมทั้งได้แจ้งเจ้าของเรือเพื่อให้ระงับไม่ให้ดำเนินการตัดเรืออีกต่อไป
นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นงานนโยบายที่สั่งการให้ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคทุกแห่ง ตรวจสอบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการนำเรือเหล็กมาตัดโดยผิดกฎหมาย และต้องปฎิบัติตาม พ.ร.ก.ในกิจการยุบเรือเป็นเศษเหล็ก เป็นกิจการการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภคอันกระทบกระเทือนถึงความปลอดภัย หรือผาสุกของประชาชน พ.ศ.2527 ที่สำคัญการนำเรือเหล็กที่ปลดระว่างแล้วมาตัดเป็นเศษเหล็กโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนที่พักอาศัยอยู่ริมแม่น้ำ อีกทั้งวัฎจักรวงจรชีวิตสัตว์น้ำจืด และน้ำเค็ม เนื่องจากสารเคมีที่ติดมากับตัวเรือ เศษเหล็ก ถ้าจะตัดเรือต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด อีกด้วย
ทีมข่าวคมชัดลึกทั่วไทย