ข่าว

ส.ส.ก้าวไกล ชี้แบน "บุหรี่ไฟฟ้า" สร้างแต่ปัญหา

ส.ส.ก้าวไกล ชี้แบน "บุหรี่ไฟฟ้า" สร้างแต่ปัญหา

08 มิ.ย. 2564

ส.ส.ก้าวไกล ชี้แบน "บุหรี่ไฟฟ้า" สร้างแต่ปัญหา แนะรัฐปลดล็อคให้ถูกกฎหมาย เชื่อจะเกิดประโยชน์กับผู้สูบบุหรี่ ชาวไร่และการยาสูบแห่งประเทศไทย

นายวรภพ วิริยะโรจน์  ส.ส. พรรคก้าวไกล ร่วมไลฟ์เฟซบุ๊กกับเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า ระบุยิ่งแบนบุหรี่ไฟฟ้ายิ่งสร้างปัญหา แนะไทยปลดล็อคบุหรี่ไฟฟ้าให้อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างถูกต้องตามกฏหมาย และเร่งเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของการยาสูบฯ ดีกว่าผูกขาดเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า กลุ่มลาขาดควันยาสูบ (ECST) เปิดเวทีไลฟ์สดผ่านเฟซบุกส์ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการรณรงค์ควบคุมยาสูบในวันงดสูบบุหรี่โลก

โดยหนึ่งในแขกรับเชิญที่น่าสนใจ คือ นายวรภพ วิริยะโรจน์  ส.ส. พรรคก้าวไกล ซึ่งเข้ามาร่วมพูดคุยในหัวข้อ “นโยบายของรัฐกับการแก้ไขปัญหาความอันตรายจากการสูบบุหรี่” ให้ความเห็นว่า “ในปัจจุบันตลาดบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยมีมูลค่ามหาศาล อาจจะมากกว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อปี มีผู้ใช้จำนวนมากแม้แต่ในรัฐสภาเอง เงินภาษีจำนวนมากจากการซื้อขายดังกล่าวที่ควรจะถูกจัดเก็บเป็นรายได้เข้าประเทศ แต่รัฐบาลกลับเสียโอกาสในการเก็บภาษีส่วนนั้นเพราะมาตรการแบนที่มองจากมุมไหนก็มีแต่ผลเสีย ทั้งเป็นการกีดกันเสรีภาพของผู้บริโภค และเปิดช่องการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐที่จับกุมรีดไถผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า โดยผู้ที่ได้ประโยชน์กลับมีเพียงกลุ่มผู้ค้าของเถื่อนที่นำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างผิดกฏหมายมาขายให้กับผู้บริโภคทั้งผู้ใหญ่และเยาวชน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีความต้องการใช้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ทางแก้ที่สำคัญคือควรจะนำบุหรี่ไฟฟ้ากลับเข้ามาควบคุมให้อยู่ในระบบอย่างถูกต้องจะดีกว่า”

นอกจากนี้ ส.ส. วรภพ ยังแนะว่าการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกกฎหมายจะเป็นแรงขับเคลื่อนในการปรับตัวของการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ในการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค “นวัตกรรมหรืออินโนเวชั่นที่เข้ามาทำให้ผู้สูบบุหรี่เปลี่ยนไปใช้บุหรี่ไฟฟ้ากันมากขึ้น หาก ยสท. ไม่ปรับตัวให้ทัน เราก็เสียโอกาสเพิ่มขีดความสามารถในการตอบสนอความต้องการผู้บริโภค รวมถึง ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชาวไร่ยาสูบที่ขาดรายได้เพราะไม่สามารถขายผลผลิตให้กับเอกชนและต่างชาติในช่วงที่ยสท. ไม่สามารถแข่งขันได้ ถ้ารัฐบาลสามารถปลดล็อคเรื่องนี้ได้ เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนไทยสามารถประกอบธุรกิจเพื่อแข่งขันกับต่างชาติ เศรษฐกิจไทยคงจะได้ประโยชน์จากอุตสาหกรรมบุหรี่และยาสูบมากขึ้นอย่างแน่นอน”

ทั้งนี้จากงานวิจัยทั่วโลกข้อดีที่ชัดเจนที่สุดของบุหรี่ไฟฟ้าก็คือ อันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนทั่วไปถึง 95%  หน่วยงานด้านสาธารณสุขของอังกฤษได้ไปรีวิวงานศึกษาต่างๆ เกี่ยวกับโทษของบุหรี่มวนเปรียบเทียบกับบุหรี่ไฟฟ้า และได้ข้อสรุปว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนถึง 95%  ทั้งนี้ สาเหตุหลักๆ ก็เนื่องจากบุหรีไฟฟ้าไม่มีกระบวนการเผาไหม้สันดาป จึงไม่ทำให้เกิดสารทาร์ (Tar) ซึ่งเป็นน้ำมันที่เกิดจากกระบวนการเผาไหม้ยาสูบและเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เป็นมะเร็งปอด  นอกจากนี้ บุหรี่ไฟฟ้ายังไม่ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์แบบบุหรี่มวนด้วย จึงปลอดภัยกว่ามาก