ดื่ม "กาแฟดำ" ยังไงให้ผอมเพรียว
ประโยชน์ของ "กาแฟดำ" มีมากกว่ารสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และกลิ่นที่หอมกรุ่น คือช่วยลดน้ำหนัก สำหรับใครที่ต้องการเปลี่ยนแปลงรูปร่างให้ผอมเพรียว เพียงแค่รู้จักวิธีการดื่ม และเลือกเวลาที่เหมาะสม
ช่วงนี้สาวๆ ออฟฟิศหลายคน ต้อง Work From Home แต่การทำงานอยู่กับบ้าน ก็ทำให้กินไม่หยุดอยู่เหมือนกัน หลายคนจึงต้องหาตัวช่วย เพื่อจะลดพุงลดน้ำหนัก และ “กาแฟดำ” ก็เป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยให้คนส่วนใหญ่ผอมเพรียวได้ดังใจนึก
ในสถานการณ์โควิด-19 ระบาดระลอกนี้ ทำให้ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเปลี่ยนไป ไม่เพียงมนุษย์ออฟฟิศต้องนั่งจุมปุ๊กหน้าคอมพิวเตอร์ที่บ้านเท่านั้น แต่มีไม่น้อยที่ลุกขึ้นมาโชว์สกิลการทำอาหารรัวๆ ให้เห็นตามโซเชียลอยู่บ่อยๆ พลอยทำให้รูปร่างที่เคยผอมบาง กลับเจ้าเนื้อขึ้นมาทันตาเห็น
แล้วจะทำยังไงถึงจะไม่อ้วนได้ อ๊ะๆ อย่าได้ทุกข์ใจไป จากการค้นคว้าข้อมูล พบว่า มีเครื่องดื่มที่ช่วยให้ลดน้ำหนักได้ดี นั่นก็คือ "กาแฟดำ" และเมื่อยิ่งศึกษายิ่งรู้ลึกอีกว่า กาแฟดำนั้นมีประโยชน์มากมายเลยทีเดียว
ว่ากันเฉพาะ “กาแฟดำ” เพียวๆ ที่ไม่ผสมอะไร กลับอุดมไปด้วยคาเฟอีนที่เข้มข้น ทำให้มีการสูบฉีดของหลอดเลือดมาก และเพิ่มอัตราการเผาผลาญของไขมันด้วย ทั้งยังพรั่งพร้อมไปด้วยสารฟลาโวนอยด์ ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดน้ำหนักแล้ว ยังช่วยให้กระปรี้กระเปร่า และรู้สึกสดชื่นขึ้นด้วย
มีคำถามตามมาว่า แล้วจะดื่มกาแฟดำเวลาไหนถึงที่ดีที่สุด?
ด้วยความที่กาแฟดำ 1 ช้อน มีพลังงานแค่ 4-5 แคลลอรี่เท่านั้น แถมยังมีอานุภาพเข้าไปทำให้ไขมันที่ทานเข้าไปแตกตัวและสลายไป ไม่จับเป็นก้อน การดื่มกาแฟที่ไม่ใส่น้ำตาลเป็นประจำก่อนออกกำลังกายตอนเช้า และหลังมื้ออาหารหลัก หรือเลือกที่จะจิบเรื่อยๆ ระหว่างทำงาน แต่รวมแล้วไม่ควรเกินวันละ 3 แก้ว ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม การดื่มแค่กาแฟดำอย่างเดียว อาจยังไม่ทำให้ลดน้ำหนักได้อย่างแท้จริง เพราะข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ระบุว่าสารที่อยู่ในกาแฟจะช่วยทำให้เกิดการเผาผลาญไขมันเพียงบางส่วนเท่านั้น หากว่าต้องการลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ต้องควบคุมอาหาร และออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย
ทั้งนี้ ใช่ว่ากาแฟดำ จะมีแต่ผลดีอย่างเดียว เพราะหากดื่มเกินพอดี ร่างกายอาจได้รับคาเฟอีนมากเกินไป อาการที่เกิดกับบางคนคือทำให้นอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย เวียนหัว เพราะร่างกายขาดแคลเซียมจากนม จนเกิดเป็นโรคกระดูกพรุนได้ ในบางรายอาจเป็นโรคความดันโลหิตสูง หากคนนั้นมีโรคความดันอยู่แล้ว แพทย์จึงแนะให้ทานนมเพื่อเพิ่มแคลเซียม และเช็คโรคประจำตัวของแต่ละคนด้วย
ลองหันมาดื่มกาแฟดำ เพื่อเป้าหมายในการลดน้ำหนักดูนะคะ แรกๆ อาจจะยากสักหน่อยสำหรับใครที่ไม่เคยทาน เพราะความขมของรสชาติกาแฟแท้ แต่ถ้าค่อยๆ ลดน้ำตาลลงเรื่อยๆ จนสามารถดื่มได้โดยที่ไม่ต้องผสมอะไรเลย ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เฉลี่ยวันละประมาณ 30 นาที รับรองว่า ออฟฟิศเปิดให้ทำงานได้เมื่อไหร่ หนุ่มๆ ต้องร้องว้าวเลยทีเดียว