"จินี ไวจ์นัลดุม" ได้ต้นสังกัดใหม่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สัญญา3 ปี
"จินี ไวจ์นัลดุม" อดีตกัปตันทีมลิเวอร์พูล ได้ต้นสังกัดใหม่เป็นทีมจากลีกเอิง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง โดยสัญญาที่ได้รับเป็นการค้าแข้งในแดนน้ำหอมนาน 3 ปี
"จินี ไวจ์นัลดุม" อดีตกัปตันทีมลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์เมียร์ลีกอังกฤษ ได้ต้นสังกัดใหม่ คือ สโมสรฟุตบอลปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทีมในลีกเอิงฝรั่งเศส โดยกองกลางทีมชาติเนเธอร์แลนด์วัย 30 ปี ได้รับสัญญาในการค้าแข้งกับทีมจากลีงเอิงนาน 3 ปี หรือไปสิ้นสุดในปี 2024
"จินี ไวจ์นัลดุม" ย้ายจากนิวคาสเซิล มาร่วมงานกับ ลิเวอร์พูล นับตั้งแต่ปี 2016 และอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์นาน นาน 5 ปี เมื่อสัญญากับทีมลิเวอร์พูลสิ้นสุดลงในสิ้นเดือนมิถุุนายน จึงย้ายไปร่วมกับทีมชั้นนำในลีกสูงสุดของฝรั่งเศส จินี ไวจ์นัลดุม มีส่วนสำคัญในทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ช่วยให้พวกเขาเก็บถ้วยเมเจอร์รวมสี่รายการ โดยตลอด 5 ปี ไวจ์นัลดุม ลงเล่นให้ลิเวอร์พูล 237 นัด ทำไป 22 ประตู ผลงานของไวนัลดุม ที่สร้างไว้กับลิเวอร์พูล ได้แก่ แชมป์พรีเมียร์ลีก , แชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีก ,แชมป์ฟีฟา คลับ เวิลด์ คัพ , และ แชมป์ยูฟา ซูเปอร์ คัพ
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เซ็นสัญญากับ "จินี ไวจ์นัลดุม" มิดฟิลด์ตัวรับแบบไร้ค่าตัว หลังจากที่เขาอำลาลิเวอร์พูล กองกลางทีมชาติเนเธอร์แลนด์วัย 30 ปี ได้รับสัญญาในการค้าแข้งกับทีมจากลีงเอิงนาน 3 ปี เดิมมีข่าวว่า มิดฟิลด์ รายนี้จะไปแสวงหาความท้าทายกับ บาร์เซโลน่าในลาลีกาสเปนแต่เป็น ปารีสฯ ที่ได้ตัวไป ด้วยข้อเสนอในผลตอบแทนที่สูงกว่า "ผมกำลังเข้าร่วมกับทีมที่ดีที่สุดในยุโรปทีมหนึ่ง ปารีส แซงต์-แชร์กแมงได้พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาเก่งแค่ไหน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และผมเชื่อมั่นว่าด้วยผู้สนับสนุนของเรา เราจะพัฒนาไปได้เรื่อย ๆ" ไวจ์นัลดุม กล่าว
สาวกลิเวอร์พูล : Liverpro https://www.facebook.com/Liverprofootball/ ให้เครดิตถึงมิดฟิลด์ ดังนี้
ไม่เขียนถึงคงไม่ได้
ณ หน้าร้อน ปี 2016 ลิเวอร์พูลจัดการเซ็นสัญญา Georginio Wijnaldum จาก Newcastle ได้สำเร็จ ค่าตัว 25 ล้านปอนด์ ค่าเหนื่อยราวๆ 50,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ น่าจะเป็นเป้าหมายสำรองหลังจากพลาดการไล่ล่าตัว Mamoud Dahoud กองกลางดาวรุ่งที่ Klopp หมายปอง
ตลอดสัญญา 5 ปีที่ผ่านมา Wijnaldum ทำให้รู้ว่าบางทีเป้าหมายสำรองไม่ได้แย่เสมอไป กลับกัน เป้าหมายแรก อาจจะไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง เช่น Naby Keita ที่ก็ยังพิสูจน์ตัวเองไม่ได้ Moment ที่สำคัญของ Wijnaldum ที่เกิดขึ้น คือเกมสุดท้ายของปีแรกของเขาที่ Anfield ลิเวอร์พูลต้องการ 3 แต้มสำหรับการก้าวเข้าไปเล่นในเวทียุโรป หลังจมปลักกลางตารางมานาน หลังยุคทองของ Luis Suarez
Gini Wijnaldum คือผู้พังประตูแรกปลดล็อคความเครียดของลิเวอร์พูล ณ โมเมนต์นั้นผมรู้แล้ว แชมป์เปี้ยนส์ลีกปีหน้าอยู่ในมือเราแน่ๆ หลังจากนั้น Wijnaldum จะมี โมเมนต์ Box to Box ขึ้นมาพังประตู และที่สำคัญ สถิติมักจะดี ยามเล่นในบ้านต่อหน้าแฟนบอล ซึ่งก็เป็นตั้งแต่สมัยอยู่ Newcastle แล้ว
Wijnaldum นำความแน่นอน เข้ามาสู่แดนกลางของลิเวอร์พูล ครองบอลได้ แย่งบอลยาก เป็น 1 ใน ผู้เล่นที่แทบจะนับ personal error ได้น้อยมากๆ ตลอด 5 ปี น่าจะไม่ถึง 3-4 ครั้ง ในเกมที่ต้องการความใจเย็น การครองเกมนวดไปเรื่อยๆ Gini มอบสิ่งนั้นได้
จุด Peak ก็ชัดเจนคือการเปลี่ยนตัวลงมาพัง 2 ประตู ปลุกลิเวอร์พูลเขี่ยบาเซโลน่าตกรอบ แบบเหลือเชื่อ โดยหลังเกมเขายอมรับว่า เขาโมโหที่ถูกดร็อปในเกมสำคัญ และ Klopp เองก็รู้ดีว่ายามนั้น Wijnaldum ไม่ใช่ 11 ตัวจริงที่ดีที่สุด แต่เกมนั้นพลิกชะตา Wijnaldum ทำให้เขามีบารมีกลายเป็น Key Player ขึ้นมาทันที
หลังหิ้ว Big ear กลับแอนฟิลด์ แน่นอน เขาเป็น 1 ใน 25 คนสุดท้าย ท้าชิง บัลลงดอร์ (ส่วนตัวผมมองว่า Overrated) ในช่วง 1-2 ปีสุดท้ายของเขา ผมไม่ค่อยชอบ Wijnaldum เท่าไหร่ เพราะเล่นไม่เด่น เล่นไปเรื่อย แน่นอนจนไม่หวือหวา จนหลังๆ เริ่มมีพลาดให้เห็น ครองบอลได้ไม่เนียนมาก ด่าอยู่สักพักร่วมกับ Firmino
จนกระทั่งกองกลางเจ็บเป็นแพทั้ง Fabinho Keita Milner ถ้าจำไม่ผิด ไม่มีทางอื่นเลยต้องเข็น Wijnaldum ลงตัวจริงทุกเกม ซึ่งทุกเกม มันคือ มาตรฐานความสม่ำเสมอ เล่นดีขึ้นมาแบบไม่น่าเชื่อ จนผมหาคำด่าไม่ได้เลยในช่วงหลัง (จนกระทั่งมาแย่ ตอนช่วงท้ายที่เล่นประคองตัว ไม่เต็มที่มากนัก)
สุดท้ายแล้วเขาคือฟันเฟืองชิ้นหนึ่งที่ขับเคลื่อนเครื่องจักรสีแดงมา 5 ปี และมันถึงเวลาแล้วที่จะต้องหาฟันเฟืองชิ้นใหม่มาต่อเติม ประโยคหนึ่งที่ผมได้ยินจากเพื่อนแฟนปืนคนหนึ่ง ณ ช่วงลิเวอร์พูลกวาดชัยชนะเป็นว่าเล่น เกมที่ต้องพบ อาร์เซนอลในปีสองปีหลัง " ดูกองกลางอาเซนอล Xhaka, Guendouzi, Elneny, Torreira แล้วดูลิเวอร์พูล Fabinho, Henderson, Wijnaldum, Keita, Milner จะเอาไรไปสู้"
จริงๆเรามองจากคนใน ชื่อชั้นเราไม่ได้ดูระดับโลกมากขนาดนั้นหรอก แต่คนนอกเค้ามองกองกลางลิเวอร์พูลแข็งแกร่งมากขนาดไหน Wijnaldum เป็นชื่อหนึ่งที่ฝั่งตรงข้ามเกรงกลัว และเรทความสามารถไว้ในมิดฟิลด์ระดับสูง ขอบคุณตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ถึงเวลาต้องอำลา คิดถึงรอยยิ้มสีขาว ตาตี่ ผมสกินเฮดในสีเสื้อแดงเพลิง ตลอดไป
Farewell #5 #GeorginioWijnaldum
*** ขอบคุณภาพประกอบจาก https://twitter.com/lfc