ข่าว

รอง โฆษก ตร. แนะญาติเหยื่อ ฟ้องแพ่ง "คลินิกศัลยกรรม" ทำสาวดับ

รอง โฆษก ตร. แนะญาติเหยื่อ ฟ้องแพ่ง "คลินิกศัลยกรรม" ทำสาวดับ

12 มิ.ย. 2564

รอง โฆษก ตร. แนะญาติเหยื่อ ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย "คลินิกศัลยกรรม" ทำสาวดับ เผยเข้าข่ายความผิด ข้อหากระทำโดยประมาทฯ และฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคฯ

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง โฆษก ตร.) กล่าวถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้เสนอเรื่องราวเกี่ยวกับกรณีที่มีผู้เสียชีวิตจากการเข้าใช้บริการสถานเสริมความงามผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า

 

 

รอง โฆษก ตร. แนะญาติเหยื่อ ฟ้องแพ่ง \"คลินิกศัลยกรรม\" ทำสาวดับ

 

 

 

 

 

กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564 พนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ได้รับคำร้องทุกข์จากแม่ของผู้เสียชีวิต เนื่องจากลูกสาวของผู้แจ้ง ได้ซื้อคอร์สเสริมความงามผ่านทางเฟซบุ๊กในราคาพิเศษ และเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมที่คลินิกศัลยกรรมแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2564

 

หลังจากการผ่าตัดผู้เสียชีวิตมีอาการชักเกร็ง หายใจไม่ออก แพทย์ก็ได้ทำการปฐมพยาบาล ก่อนจะส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่นและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทางแม่ของผู้เสียชีวิตจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน เพื่อดำเนินคดีกับทางคลินิกศัลยกรรมดังกล่าวจนถึงที่สุด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำในส่วนที่เกี่ยวข้อง และตรวจสอบใบอนุญาตในการประกอบกิจการ, ใบประกอบวิชาชีพของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และนำพยานหลักฐานที่ปรากฎมาประกอบในการดำเนินคดีต่อไป

 

การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐาน กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญา และความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรค หรือผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มาตรา 35 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตามพฤติการณ์และพยานหลักฐานที่ปรากฎ ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถฟ้องร้องทางแพ่งเพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนจากเจ้าของคลินิกและผู้เกี่ยวข้องได้อีกทางหนึ่ง

 

รองโฆษกตร. ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ถึงข้อควรระมัดระวังก่อนจะตัดสินใจทำศัลยกรรมดังนี้ ควรเลือกทำกับสถานเสริมความงามที่น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ปลอดภัย รวมถึงควรเลือกแพทย์ที่มีความรู้ ความชำนาญ มีประสบการณ์ ที่สำคัญต้องมีใบประกอบวิชาชีพด้วย และควรเข้าไปปรึกษาพูดคุยที่สถานเสริมความงาม กับแพทย์ด้วยตนเอง

 

 

อย่าตัดสินใจเลือกเพียงเพราะเห็นโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่ามีข้อเสนอที่ดี ราคาถูกเท่านั้น ทั้งนี้ต้องตรวจเช็คและเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยมีกรณีลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นหลายครั้ง และขอให้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ต่อไป