เทียบให้เห็นชัดๆ "คนละครึ่งเฟส 3" VS "ยิ่งใช้ยิ่งได้" เลือกอันไหนดี
ใครเกิดลังเล ระหว่าง"คนละครึ่งเฟส 3" กับ "ยิ่งใช้ยิ่งได้" ควรเลือกอันไหนดี มีข้อเปรียบเทียบให้เห็นชัดๆก่อนตัดสินใจ
ต้องเรียกได้ว่า ถือเป็นอีก1โครงการที่ใครหลายคนรอคอย อย่างโครงการ "คนละครึ่งเฟส 3" (ระยะที่ 3) ที่สามารถ โดยประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับสิทธิภาครัฐร่วมจ่ายร้อยละ 50 สำหรับค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป และค่าบริการ (นวด , สปา , ทำผม , ทำเล็บ , ค่าเดินทางโดยบริการขนส่งสาธารณะ หรือขนส่งมวลชนสาธารณะ) ยกเว้น สลากกินแบ่งรัฐบาล , เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ , ยาสูบ ทั้งนี้ ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 1,500 บาทต่อคน ในแต่ละรอบ ซึ่งวันนี้(14 มิถุนายน 2564) ได้มีการเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่ช่วงเวลา6.00น.เป็นต้นไป โดยโดยผู้ที่เคยได้รับสิทธิ คนละครึ่ง เฟส 1 และ เฟส 2 มาแล้วจะต้อง ลงทะเบียนใหม่ ผ่านแอปฯ เป๋าตัง เพื่อลดเวลาการกรอกข้อมูล ระบบจะดึงข้อมูลเดิมมาให้อัตโนมัติ แต่ส่วนผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิ คนละครึ่ง ไม่เคยร่วมโครงการภาครัฐมาก่อน ต้องเข้าไปลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์
และในช่วงเช้าจะเห็นได้ว่าประชาชนได้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก คาดว่ามีผู้เข้าใช้หลายคน จนทำให้เกิดข้อขัดข้องของแอปฯเป๋าตัง ไม่สามารถเข้าได้ ทำให้ผู้ที่เคยได้รับสิทธิคนละครึ่งมาก่อน ต้องเปลี่ยนมาลงทะเบียนทางเว็บไซด์ www.คนละครึ่ง.com แทน ทั้งหมด31ล้านสิทธิ และจากการตรวจสอบปัจจุบัน(ณเวลา 20.45 น.) สิทธิคงเหลืออยู่ที่ 7,579,881 สิทธิ หากใครยังไม่ได้ลงทะเบียนก็สามารถไปลงทะเบียนได้ที่ www.คนละครึ่ง.com
ในส่วนของโครงการ "ยิ่งใช้ยิ่งได้" หรือ e-Voucher โดยผู้ที่ได้ใช้สิทธินี้ ได้นำe-Voucherไปใช้จ่ายซื้อสินค้าค่าอาหารเครื่องดื่ม และค่าบริการต่างๆ กับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) โดยจะให้ในมูลค่า 5,000-7,000 บาทต่อคนต่อวัน โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2564 เวลา 06.00-22.00 น. เป็นต้นไป ผ่าน 2 ช่องทาง คือwww.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com หรือ ลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง พร้อมผูก G-Wallet สำหรับคนที่เคยเข้าร่วมมาตรการของรัฐที่เคยใช้แอปฯ เป๋าตัง ซึ่งประชาชนที่ประสงค์ใช้สิทธิ ยิ่งใช้ยิ่งได้ ต้องไปยกเลิกคนละครึ่งเฟส3ก่อนเพราะสามารถเลือกใช้ได้เพียงโครงการเดียว
หากลองเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆระหว่าง คนละครึ่ง กับ ยิ่งใช้ยิ่งได้ เพื่อให้ตัดสินใจกันง่ายขึ้น โดยทางเพจกรุงไทยได้แยกข้อให้เห็นชัดเจน
คนละครึ่ง (เฟส3)
เหมาะสำหรับคนที่เน้นซื้อของเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน
สิทธิที่ได้รับ
-รัฐช่วยจ่ายค่าสินค้าต่างๆ 50%
-จำกัดการใช้วันละ 150 บาท (ไม่เกิน 3,000 บาท)
ใช้ซื้ออะไรได้บ้าง
อาหาร
เครื่องดื่ม
สินค้าทั่วไป
ยิ่งใช้ยิ่งได้
เหมาะสำหรับคนที่เน้นซื้อของที่มีมูลค่าสูง
สิทธิที่จะได้รับ
-รัฐให้ E-Vocherผ่านแอปฯเป๋าตัง สูงสุดไม่เกิน 7,000บาท/คน
-โดยใช้จ่ายสูงสุด 60,000บาท
ใช้ซื้ออะไรได้บ้าง
-อาหาร, เครื่องดื่ม, บริการกับผู้ประกอบการ (ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) )
*1คน เลือกได้เพียง 1โครงการและสามรถเปลี่ยนแปลงโครงการที่เลือกได้เพียง 1 ครั้ง ผ่านแอปฯ เป๋าตังเท่านั้น
ขอบคุณ Krungthai Care