"นายกฯ"ตั้งเป้า"ประเทศไทย"ต้องเปิดภายใน 120 วัน
"นายกฯ"ตั้งเป้า "ประเทศไทย"ต้องเปิดภายใน 120 วัน ชี้ นี่คือหนทางสำคัญหนทางหนึ่ง ที่จะช่วยบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน ที่ไม่สามารถทำมาหากินกันได้มาเป็นระยะเวลานาน
เมื่อวลา 18.00 น. หลังเคารพธงชาติ มีการถ่ายทอดการแถลงการณ์นายกรัฐมนตรี “ตั้งเป้าประเทศไทยต้องเปิดประเทศ ภายใน 120 วัน” โดยมีบางช่วงบางตอนที่สำคัญจากคำแถลงการณ์ดังนี้
- ในช่วง 1 เดือนกว่าที่ผ่านมานี้ การที่ผมในฐานะนายกรัฐมนตรีสามารถสั่งการโดยตรงได้ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยบูรณาการ การทำงานและช่วยแก้ปัญหาต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นในการทำงานใหญ่ ที่มีหลายหน่วยงานมาเกี่ยวข้อง วันนี้ได้มีส่วนช่วยให้หน่วยงานและคณะกรรมการชุดต่างๆ สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างฉับไวและเป็นไปในทิศทางเดียวกันมากยิ่งขึ้นตลอดจนแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วรวมทั้งทำให้มีความคืบหน้าในการเดินหน้าเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนรายใหม่ๆได้เป็นอย่างดี…จนถึงตอนนี้ยืนยันการจัดหาโดยมีการลงนามในสัญญาจองหรือสัญญาซื้อไปแล้ว 105.5 ล้านโดสทำได้เกินเป้าหมายที่เราตั้งไว้สำหรับปีนี้
2.ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมองไปในอนาคตที่ไกลขึ้นอีก คือการเปิดประเทศและรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยอีกครั้งนี่คือหนทางสำคัญหนทางหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ไม่สามารถทำมาหากินกันได้มาเป็นระยะเวลานาน วันนี้ผมขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า ผมตั้งเป้าเอาไว้ว่า ประเทศไทยจะต้องเปิดประเทศ ทั้งประเทศ ให้ได้ภายใน 120 วัน นับจากวันนี้ ส่วนเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญๆ หากพร้อมได้เร็วกว่า ก็ควรทยอยเปิดให้ได้เร็วกว่านั้น… ยกเว้นหากมีสถานการณ์ร้ายแรงใหม่เกิดขึ้น หรือมีความจำเป็นจริงๆ ก็ให้พิจารณาเป็นกรณีไป”
“ผมรู้ดีว่าการตัดสินใจของผมวันนี้ มาพร้อมกับความเสี่ยง เพราะเมื่อเราเปิดประเทศ ไม่ว่าเราจะเตรียมการป้องกันขนาดไหนก็ตาม ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นบ้าง แต่เมื่อเราประเมินสถานการณ์ และคิดถึงความอยู่รอดในการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน ผมคิดว่า ถึงเวลาแล้วครับที่เราจะต้องยอมรับความเสี่ยงร่วมกันบ้าง หากความเสี่ยงนั้น เราได้ประเมินอย่างรอบคอบแล้วว่าอยู่ในระดับที่พอจะรับได้ เราต้องจัดลำดับความสำคัญภายใน สำหรับประเทศไทยของเรา เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ครับ”
เราได้เห็นกันแล้วและต้องทำใจว่า ทั่วโลกยังจะต้องอยู่กับไวรัสนี้ต่อไปอีกซึ่งก็รวมถึงประเทศไทยด้วย แต่อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถรอจนไวรัสนี้หมดไปจากโลกและเราก็ไม่สามารถรอ จนทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสกันถ้วนหน้าก่อน แล้วจึงค่อยเปิดประเทศ สิ่งที่เราต้องทำก็คือ เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้เหมือนกับโรคภัยอื่นๆ จัดการโควิดให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้และให้พี่น้องประชาชนสามารถกลับออกมาทำมาหากินกันได้อีกครั้ง นี่คือนโยบายของผม และเป็นเป้าหมายที่ผมตั้งไว้”
- นโยบายระยะสั้น ทุกคนต้องได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรก
- ในระยะสั้น นโยบายสำคัญของผม คือ อย่างน้อยที่สุดประชาชนทุกคนควรต้องได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรก โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะการได้รับวัคซีนแม้แค่เพียงเข็มแรก ก็สามารถช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน และช่วยลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตได้ในระดับที่มากพอสมควรแล้ว
และในระยะยาว การจัดการกับโควิด-19 คือ การมีฐานการผลิตวัคซีนโควิด-19 ตั้งอยู่ในประเทศของเราเอง ซึ่งจะช่วยให้เราทุกคนสามารถเข้าถึงวัคซีนได้ในระยะยาวต่อไป ตราบเท่าที่เราต้องการ
วันนี้ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสาธารณสุข ทั้งในสิงคโปร์ และไต้หวัน ต่างก็ออกมาพูดว่า ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งของประเทศเค้าในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด คือปัญหาที่เกิดจากการสั่งซื้อวัคซีนจากผู้ผลิตในต่างประเทศ ตอนนี้ เค้าคิดเหมือนประเทศไทย และเค้าได้ตัดสินใจแล้วว่า หนทางที่จะทำให้ประเทศของตัวเองเข้าถึงวัคซีนได้อย่างยั่งยืน คือ ต้องผลิตในประเทศ นี่คือสิ่งที่เค้ากำลังดำเนินการอยู่
ในที่สุดการมีโรงงานผลิตวัคซีนโควิด-19 อยู่ในประเทศไทย จะเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดในระยะยาว ซึ่งแนวทางนี้ เราได้เลือกมาตั้งแต่ต้น และถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ผมต้องขอขอบคุณผู้เชี่ยวชาญทุกท่าน ที่แนะนำให้เราเลือกเดินหน้าในแนวทางนี้ และผมขอขอบคุณทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร ที่ร่วมกันดำเนินการจนสำเร็จ
ในการเดินหน้าต่อจากนี้เป็นต้นไป เราอาจจะต้องเจอกับความท้าทายครั้งใหม่ๆ และความท้าทายที่อาจจะเกิดขึ้น เมื่อเราเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ผมต้องขอชื่นชม บุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขทุกท่าน อ.ส.ม. เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่แม้ว่าทุกท่านจะเหน็ดเหนื่อยกันมาอย่างยาวนาน แต่ก็ยังนึกถึงว่าพี่น้องคนไทยยากลำบากกันมากขนาดไหน และเราล้วนต้องการร่วมมือกันทุกวิถีทาง เพื่อช่วยลดความเดือนร้อนในการทำมาหากิน ให้กับพี่น้องคนไทยด้วยกัน แม้จะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่ก็เป็นหนทางที่จะดีสำหรับประเทศไทย
ปูพรมฉีดวัคซีนทั่วประเทศ
การปูพรมฉีดวัคซีนทั่วประเทศให้ได้ครบตามเป้าหมายภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือนเป็นภารกิจสำคัญครั้งประวัติศาสตร์และเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน บางอย่างอาจจะไม่เป็นไปตามแผน หรือบางอย่างอาจจะต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และมีความไม่แน่นอน ขอให้ทุกคนเปิดใจว่าภารกิจใหญ่ขนาดนี้ ที่ต้องเร่งให้เร็วที่สุดและต้องเข้าถึงทุกคน ทุกพื้นที่ ครอบคลุมทั้งประเทศ อาจจะมีความผิดพลาด หรือมีความไม่สะดวกอยู่บ้าง
สุดท้ายนี้ ผมขอส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่และบุคลากรต่างๆ ที่เหนื่อยกันมา กว่าปีครึ่งแล้ว และยังคงทำหน้าที่ต่อไปอย่างเต็มที่และเต็มใจ อย่างที่ทุกคนคงจะได้สัมผัสด้วยตัวเองแล้วเมื่อไปรับการฉีดวัคซีน เจ้าหน้าที่และบุคลากรทุกคนไม่ใช่เพียงแค่มาทำหน้าที่ให้เสร็จๆ ไปเท่านั้น แต่เราสัมผัสได้ ทั้งจากท่าทาง คำพูด และการกระทำ ว่าทุกคนมาทำหน้าที่ ด้วยหัวใจ และด้วยความปรารถนาดี ที่ต้องการปกป้องชีวิตของพี่น้องคนไทยด้วยกัน