หนุมานกองปราบยกพล ปฏิบัติการ เปิดทะเลหมอก ตีเมืองเหนือ กวาดล้าง "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ข้ามชาติ | คมชัดลึก

     เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2564 ที่ กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(รองผบช.ก) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการกองปราบปราม  พ.ต.อ. เอนก เตาสุภาพ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.๔ บก.ป. และ พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.กก.สสน.(หนุมาน) ร่วมกันแถลงผบปฏิบัติการ "เปิดทะเลหมอก" ล้างเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวต่างชาติ

     ปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจากทางตำรวจกองปราบได้รับเเจ้งเบาะเเสว่ามีกลุ่มคนต่างด้าวจำนวนมาก คาดว่าน่าจะหลบหนี เข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย มาพักอาศัยกระจายอยู่ในรีสอร์ทต่าง ๆ ในพื้นที่หมู่บ้านรักษ์ไทย หมู่ที่ ๖ ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน

     โดยกลุ่มคนดังกล่าวมีการจับกลุ่ม มั่วสุมทำกิจกรรมน่าสงสัย ก่อความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ ประกอบกับมีความกังวลเรื่องการลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ผ่านการคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นเหตุให้คนในพื้นที่เกรงว่าอาจจะมีการนำพาเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาแพร่กระจายให้กับคนในหมู่บ้าน

     เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนใช้เวลากว่า 1 เดือน จนทราบว่ากลุ่มคนต่างด้าวที่ต้องสงสัยว่าหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายนั้น มีจำนวนประมาณ 60 - 80 คน โดยเช่าเหมาทั้งรีสอร์ท และห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปในบริเวณรีสอร์ท

     จากการสืบสวนพบว่า ทั้งหมดมีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมต้องสงสัย คล้ายร่วมกันประกอบอาชีพบางอย่าง มีการประชุมแจกแจงหน้าที่ในการทำงาน และใช้โทรศัพท์ในห้องประชุมพร้อม ๆ กันจํานวนหลายคน ลักษณะคล้ายพฤติกรรมของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์

     ทั้งนี้ยังตรวจสอบพบอีกว่ากลุ่มคนเหล่านี้ มีการว่าจ้างคนในพื้นที่ให้คุ้มครองความปลอดภัย ลักษณะเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายค้นจากศาลเพื่อทำการตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 6 เป้าหมาย ในพื้นที่หมู่บ้านรักษ์ไท

     โดยวานนี้เจ้าหน้าที่กองปราบนำโดยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นสถานที่เป้าหมายจำนวน 6 จุด

     สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมด 59 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาชาวจีน 40 ราย , ชาวเมียนมาร์ 12 ราย และ ชาวฟิลิปปินส์ 1 ราย พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมกว่า 500 รายการ

     จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาได้นำคนจีนหลบหนีเข้ามาในพรมแดนธรรมชาติ และรวมตัวกันสร้างกลุ่มเพื่อหลอกลวงเหยื่อซึ่งเป็นคนจีน

     โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์การสร้างโปรไฟล์ปลอมขึ้นมา หลอกให้เหยื่อหลงเชื่อว่าเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จ ร่ำรวยจากการลงทุนในสกุลเงินดิจิตอล สร้างความน่าเชื่อถือ และพูดคุย ชักชวนเหยื่อให้ร่วมลงทุนในสกุลเงินดิจิตอลดังกล่าว โดยผ่านแอพพลิเคชั่นที่กลุ่มผู้ต้องหาสร้างขึ้นมาเอง