ข่าว

เช็กเลย "ภูเก็ต"ประกาศแล้วคลายล็อก  10 กิจกรรม  รับ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์"   เว้น สถานบันเทิง

เช็กเลย "ภูเก็ต"ประกาศแล้วคลายล็อก 10 กิจกรรม รับ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" เว้น สถานบันเทิง

22 มิ.ย. 2564

นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ลงนามในประกาศคลายล็อก 10 กิจกรรม รับ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ แต่ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ยังไม่เปิด

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต  ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ลงนามในคำสั่งเรื่อง "การผ่อนคลายการปิดสถานที่ และกำหนดมาตรการป้องกัน เฝ้าระวัง และควบคุมการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 201" ดังนี้ 
 

1. โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาทุกประเภทสามารถใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อการจัดการเรียนการสอนการสอบการฝึกอบรมหรือการทำกิจกรรมใดๆได้ตามความเหมาะสม

2. ห้างสรรพสินค้าศูนย์การค้า community Mall ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติ ยกเว้นส่วนที่เป็นตู้เกมเครื่องเล่นร้านเกมและสวนสนุกที่งดการให้บริการ

3. ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่มิได้ประกอบกิจการเป็นสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ให้บริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านได้ภายในเวลาที่กำหนดโดยให้มีการจำหน่ายและบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านได้ ไม่เกินเวลา 23:00 น 

4. ร้านสะดวกซื้อ Supermarket ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ

5. สนามกีฬา หรือ สถานี เพื่อการออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส แบดมินตัน สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ และจัดการแข่งขันได้ โดยจำกัดผู้เข้าชมในสนาม

6. ร้านเสริมสวยตัดผมตกแต่งทรงผมสุภาพบุรุษและสตรีสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ

7. สถานที่จัดให้มีโต๊ะสนุกเกอร์บิลเลียดโต๊ะพูลหรือการเล่นที่มีลักษณะคล้ายกันโดยจัดให้มีการเล่นได้ระหว่างเวลา 15.00 นถึง 23.00 น .

8. ร้านเกมคอมพิวเตอร์ เกมออนไลน์ สามารถเปิดดำเนินการได้ตามกฎหมายกำหนด 

9. โรงภาพยนต์ โรงมหรสพ สวนน้ำ ให้เปิดดำเนินการได้ตามปกติของสถานที่นั้นๆ ยกเว้นสวนสนุก เครื่องเล่นประจำที่ หรือเครื่องเล่นแบบเคลื่อนที่กลางแจ้ง ให้เปิดดำเนินการได้ตั้งแต่  06.00 -20.00 น. 

10. การรวมกลุ่มทำกิจกรรมสังสรรค์จำหน่ายบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่สาธารณะชายหาดสวนสาธารณะให้ถือปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ การจัดกิจกรรม ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ห้ามจัดกิจกรรม ซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลซึ่งมีจำนวนมากกว่า 200 คนหรือเว้นแต่เป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเป็นกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานที่กักกันโรค เป็นต้น

สามารถการจัดกิจกรรมทางสังคม งานสังสรค์ งานเลี้ยง งานรื่นเริง งานวันเกิด งานขึ้นบ้านใหม่ เลี้ยงรับ – ส่ง และเลี้ยงฉลองแสดงความยินดีในโอกาสต่าง ๆ รวมถึงการจัดพิธีการตามประเพณีนิยม เช่น งานพิธีการศพ งานอุปสมบท งานมงคลสมรส วันสำคัญทางศาสนาหรืองานบุญ ให้สามารถดำเนินการได้ภายใต้มาตรการป้องกันโรคที่เพียงพอเพื่อลดโอกาสเสี่ยงจากการติดเชื้อ และปฏิบัติตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
 

ผ่อนคลายถ่ายทำภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ 
การผ่อนคลายสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ การถ่ายทำภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ หรือการถ่ายทำสื่อในลักษณะคล้ายกัน ให้สามารถดำเนินการได้ภายใต้มาตรการที่ประกาศกำหนด ในการจำกัดจำนวนบุคคลที่เข้าร่วมการถ่ายทำ การยกเว้นไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าในบางกรณี
หรือบางช่วงเวลาของการถ่ายทำ และต้องดำเนินการตามแนวปฏิบัติสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ตามที่ได้รับอนุมัติจาก ศบค.

ผับ-บาร์-คาราโอเกะสถานบันเทิง ยังไม่ให้เปิดบริการ
นอกจากนี้ มาตรการปิดสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพโรค เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ให้ปิดสถานบริการ ผับ บาร์ คารโอเกะ สถานบันเทิง และสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการทุกแห่งในท้องที่จังหวัดภูเก็ต เป็นการชั่วคราวต่อไป และให้ปิดสนามชนไก่ สนามกัดปลา สนามแข่งนก สนามแข่งไก่ สนามมวย หรือสถานที่จัดให้มีการเล่นการพนัน เป็นการชั่วคราวต่อไป

คุมเข้มพื้นที่เสี่ยง
มาตรการตรวจสอบเข้มงวดกับสถานที่หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ ระบาดของโรคแบบกลุ่มก้อน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้มงวดในการตรวจสอบสถานที่หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค เช่น โรงงาน สถานที่พักของแรงงานต่างด้าว หรือสถานที่อื่น ๆ ให้เป็นไปตามเงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบและระเบียบรวมทั้งมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด ในกรณีที่พบผู้ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ว่ากล่าวตักเตือนและสั่งให้ผู้นั้นปฏิบัติให้ถูกต้อง ถ้าผู้นั้นไม่ปฏิบัติตามให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจมีความปิดตามมาตรา 51ต้องระวางโทษปรับปม่เกินสองหมื่นบาท หรือมาตรา52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน1ปีหรือ1แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ.2558 และอาจได้รับโทษ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548  ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง