เชียงใหม่คลายล็อก "ดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้" แต่ไม่เกิน 3 ทุ่ม ผับบาร์-ร้านเกม ยังปิดต่อ
เชียงใหม่ผ่อนปรนมาตรการให้ดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ แต่ไม่เกิน 3 ทุ่ม ส่วนสถานบันเทิง ผับ บาร์ นวด โต๊ะสนุกฯ ร้านเกม ยังคงให้ปิดต่อไป
จังหวัดเชียงใหม่ออกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 67/2564 ผ่อนคลายบางสถานที่โดยสามารถเปิดร้านสักหรือเจาะผิวหนังได้ รวมทั้งร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม สามารถบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ได้ไม่เกิน 21.00 น. แต่ยังคงให้ปิดสถานที่บางแห่งเป็นการชั่วคราว
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ลงนามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 67/2564 เรื่อง ผ่อนคลายมาตรการบางสถานที่และให้ปิดสถานที่บางแห่งเป็นการชั่วคราว
หลังจากที่มีการปรับระดับการกำหนดพื้นที่สถานการณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ จากพื้นที่ควบคุม เป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง เพื่อให้เป็นไปอย่างเหมาะสม รวมทั้งผ่อนคลายมาตรการควบคุมต่างๆ ให้ประชาชนสามารถประกอบกิจกรรมอันจำเป็นต่อการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพได้มากขึ้น โดยให้ยกเลิกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ที่ 63/2564 เรื่อง ผ่อนคลายมาตรการบางสถานที่และให้ปิดสถานที่บางแห่งเป็นการชั่วคราว ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2564
โดยให้สถานที่สักหรือเจาะผิวหนังหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายสามารถเปิดดำเนินการได้ แต่ยังคงให้ปิดสถานที่ดังต่อไปนี้ 1. สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายกับสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบกิจการอาบน้ำ สถานประกอบกิจการอาบอบนวด 2. โต๊ะสนุกเกอร์ บิลเลียด สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง 3.ร้านเกม ตู้เกม และร้านอินเทอร์เน็ต
ส่วนร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้บริโภคอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ภายในกำหนดเวลาปกติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ณ บริเวณร้าน (ในร้านและพื้นที่ต่อเนื่อง) ตั้งแต่เวลา 21.00 น. เป็นต้นไป และห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ และงดเว้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท ตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558