ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่ร้อยละ 98.5 ต้องการให้ ส.ส.และ ส.ว. นักการเมืองทุกระดับ เสนอการเสียสละเงินเดือนและค่าตอบแทนช่วยประชาชนที่เดือดร้อนจากโควิดจนกว่าโควิดจะหมดไป อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.3 กังวลนักการเมืองฉวยโอกาสหาผลประโยชน์ทางการเมือง บนความทุกข์ของประชาชน และร้อยละ 96.6 กังวลนักการเมืองปลุกปั่นอารมณ์ของประชาชนให้เกลียดชังกัน บิดเบือนทำลายกัน ไม่ช่วยเหลือกันแก้ปัญหาบ้านเมืองยามวิกฤต
ผอ.ซูเปอร์โพลกล่าวว่า ผลสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับมาตรการควบคุมโรค ด้วยการปิดเฉพาะพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดสูง โดยกำหนดคุมเข้มมาตรการและกิจกรรมเฉพาะกลุ่มและพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่อื่นๆ สามารถใช้ชีวิตทำมาหากินต่อไป และเศรษฐกิจของประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้และเห็นด้วยกับการเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวนำร่องควบคู่ไปกับมาตรการการควบคุมโรคเข้มข้นต่อเนื่องจริงจัง ระหว่างการรอวัคซีน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะธุรกิจลูกโซ่การท่องเที่ยวซึ่งจะสามารถกระจายรายได้ลงถึงประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่ และช่วยจัดเก็บภาษีจากรายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงการช่วยเหลือประชาชนระดับฐานรากที่รับจ้างในรูปแบบการค้าภายใต้วิถีใหม่ (New Normal) ที่รัฐเข้าไปช่วยเสริมและสนับสนุน ธุรกิจหมวดอาหาร การขนส่งและอื่นๆ ผ่านแอพพลิเคชั่น เช่น แกร็บ ไลน์แมน ฟู้ดแพนด้า เคอรี่ เป็นต้น รองรับสถานการณ์โควิดที่ต้องอยู่กับเราไปอีกนาน
“ที่น่าสนใจคือ ประชาชนเกือบร้อยละร้อย ต้องการให้ ส.ส.ฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล ส.ว. และนักการเมืองทุกระดับเสนอเสียสละเงินเดือนและค่าตอบแทนช่วยเหลือลดความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชนจนกว่าวิกฤตโควิด-19 จะหมดไป ทั้งยังกังวลกับความไม่จริงใจของนักการเมืองหิวแสงที่พยายามใช้ทุกสถานการณ์แสวงประโยชน์ ปลุกปั่นอารมณ์ของประชาชน ด้วยข้อมูลบิดเบือน ไม่ครบถ้วน สร้างความเกลียดชังและทำลายกันในหมู่คนไทยซ้ำแล้วซ้ำอีก ในทุกยามสถานการณ์ แม้ยามบ้านเมืองวิกฤต ประชาชนเดือดร้อนทุกข์ยาก” ผอ.ซูเปอร์โพลกล่าว