"ช่องคลอด" ติดเชื้อรา สาว ๆ รู้ได้อย่างไร อาการ สาเหตุ เมื่อไหร่ควรพบแพทย์
เชื้อราใน "ช่องคลอด" เป็นเหมือนศัตรูคู่อาฆาตกับบรรดาสาว ๆ ทั้ง รักษายาก เป็นแล้วมักกลับมาเป็นอีก สร้างความรำคาญ เสียบุคลิกภาพ
เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยของการอักเสบใน "ช่องคลอด" โดยผู้หญิง 3 ใน 4 คน เคยติดเชื้อราในช่องคลอดอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต และหลายคนติดเชื้ออย่างน้อยสองครั้ง "เชื้อรา" ใน "ช่องคลอด" เป็นเหมือนศัตรูคู่อาฆาตกับบรรดาสาว ๆ ทั้ง รักษายาก เป็นแล้วมักกลับมาเป็นอีก สร้างความรำคาญ เสียบุคลิกภาพ สาว ๆ จำนวนไม่น้อย ที่มีปัญหาเรื่องอาการคันในที่ ๆ ไม่อยากบอกใคร บางคนก็หน้าบางเกินกว่าจะเดินทางไปหาหมอ หรือเดินไปปรึกษาเภสัชกร ทนนั่งยุกยิกไปอย่างนั้น บอกเลยว่า ไม่ดีแน่
รู้จัก "เชื้อราในช่องคลอด"
ส่วนใหญ่ คือ Candida Albicans และ Candida Grabata เพราะสามารถยึดติดกับเซลล์บุช่องคลอดได้ดี
อาการเป็นยังไง
- คัน ระคายเคือง ทั้ง ปากช่องคลอด และในช่องคลอด
- อวัยวะเพศ มีผื่นแดง บวม
- แสบร้อน ขณะปัสสาวะหรือมีเพศสัมพันธ์
- ตกขาว เป็นสีขาวครีมข้น บ้างเหลว ไม่มีกลิ่น
"เชื้อราในช่องคลอด" เกิดจากอะไร
- ใช้ยาปฏิชีวนะติดต่อกัน เป็นเวลานาน ซึ่งทำลายเชื้อแบคทีเรียดีในช่องคลอด
- ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน ในร่างกายเพิ่มมากขึ้นจากการตั้งครรภ์
- โรคเบาหวาน ที่ไม่ได้ควบคุม
- ระบบภูมิต้านทานต่ำ
ควรพบแพทย์เมื่อไร
- เมื่อติดเชื้อรา เป็นครั้งแรก
- กำลังตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนซื้อยารักษาเอง
- ติดเชื้อรามากกว่า 4 ครั้งต่อปี
วิธีป้องกัน "เชื้อราในช่องคลอด"
- รับประทานโยเกิร์ต หรือ พรีไบโอติกส์
- สวมใส่เสื้อผ้าที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินินหรือผ้าไหม
- สวมกางเกงและกางเกงชั้นในที่ไม่รัด
- หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด
- ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น
- ไม่สวมใส่เสื้อผ้าเปียกชื้นเป็นเวลานาน
- ไม่สวมแผ่นอนามัยถ้าไม่จำเป็น
ข้อมูล : โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์