ข่าว

"อธิบดีกรมควบคุมโรค"​ แจงปม "เอกสารหลุด" ของปลอม ไม่ชัด "ไฟเซอร์"​ 1.5 ล้านโดส​ให้ใคร

"อธิบดีกรมควบคุมโรค"​ แจงปม "เอกสารหลุด" ของปลอม ไม่ชัด "ไฟเซอร์"​ 1.5 ล้านโดส​ให้ใคร

05 ก.ค. 2564

ยังไงแน่ "อธิบดีกรมควบคุมโรค"​ แจงเอกสารประชุมวิชาการ​ 3​ ฝ่ายหลุด​ว่อนโซเชียล อ้าง​ไม่ฉีด "ไฟเซอร์" ให้บุคลากรทางการแพทย์ เป็น "เอกสารปลอม"​ ส่วนวัคซีนบริจาค​ 1.5 ล้านโดส​ ต้องรอความชัดเจนจากสหรัฐ​ฯ

จากกรณีเอกสารบันทึกการประชุมของคณะกรรมการ​ 3​ ฝ่าย​หลุด​ ค้านฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็ม​ 3​ ให้บุคลากรทางการแพทย์​ เพราะเท่ากับยอมรับวัคซีนซิโนแวคไร้ประสิทธิภาพ​ ตามที่มีข่าวนั้น

 

อ่านข่าว "ไฟเซอร์" (Pfizer) ใครได้ฉีดก่อน เปิดเอกสารความเห็น "แก้ตัวยากมากขึ้น"

 

 

ล่าสุดวันนี้ (5 ก.ค. 2564) นายแพทย์โอภาส​ การย์กวินพงศ์​ อธิบดีกรมควบคุมโรค​ กล่าวยืนยันว่า ​ไม่ใช่เอกสารจริงและไม่ใช่ข้อสรุปจากวงการประชุม​ของนักวิชาการทั้ง​ 3​ ฝ่าย​ ซึ่งประกอบด้วย​ คณะกรรมการวิชาการ ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ 2558 คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค และคณะทำงานวิชาการด้านบริหารจัดการและศึกษาการให้บริการวัคซีน โดยเป็นเพียงความเห็นของคณะกรรมการบางท่าน และหากสังเกตดี ๆ​ เหมือนเป็นเอกสารที่เขียนขึ้นมาเพื่ออ่านเอง​ ไม่ใช่ความเห็นของนักวิชาการทั้งหมดที่เข้าร่วมประชุม

 

ทั้งนี้ อธิบดีกรมควบคุมโรค​ วอนขออย่าแชร์ข้อมูลต่อ​ ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ที่รับบริจาคจากสหรัฐอเมริกา​ และจะนำมาฉีดบูสเตอร์​ เข็ม​ 3​ ให้บุคลากรทางการแพทย์หรือไม่​ นายแพทย์โอภาส​ เผยว่า​ ขณะนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าจะบริจาคให้ไทยเมื่อไหร่​ แต่หากได้รับบริจาคก็คงต้องพิจารณารายละเอียดว่าจะให้กลุ่มไหนอย่างไร​ ย้ำวัคซีนซิโนแวคมีประสิทธิภาพ​ ผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลก​

 

ทางด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้ออกมายอมรับกรณีที่มีเอกสารจากที่ประชุมเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด-19 "ไฟเซอร์" ที่จะเข้ามาในประเทศไทย จากการบริจาคของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่า วัคซีนไฟเซอร์จำนวน 1.5 ล้านโดส เกิดจากการประสานงานระหว่างรัฐบาล 2 ประเทศเงื่อนไขการตกลงต่าง ๆ อยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศ

 

ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวยอมรับว่า เอกสารหลุดฉีดวัคซีน "ไฟเซอร์" เข็ม 3 เป็นของจริง ซึ่งเอกสารดังกล่าวที่มีการแชร์ในโลกออนไลน์เป็นเอกสารภายในจากการประชุมของคณะกรรมการวิชาการ เราไม่ควรที่จะไปวิพากษ์วิจารณ์เพราะเป็นเรื่องของวิชาการ ตราบใดที่ยังไม่ได้มาเป็นขั้นตอนปฏิบัติก็ยังไม่มีผลอะไร

 

การประชุมคณะกรรมการวิชาการก็มีอาจารย์แพทย์ซึ่งแต่ละท่านเสียสละเวลาเข้ามา แม้ไม่ได้เป็นข้าราชการในสังกัดกระทรวงหรือลูกจ้างอะไรแต่ท่านสละตัวเองเข้ามาเพื่อให้ความเห็นของตนเอง ซึ่งจะมีการบันทึกไว้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นแนวปฏิบัติ เพราะหลังจากนั้นต้องมีอีกหลายขั้นตอนที่จะตกลงกันว่าจะปฏิบัติในแนวทางไหน

 

อ่านข่าว 'หมออิทธพร' หนุน "ฉีดวัคซีน" เข็ม 3 ให้บุคลากรฯด่านหน้า #ขอไฟเซอร์ให้หมอ

 

อ่านข่าว "อนุทิน"ยันเอกสารหลุด"ไฟเซอร์" ของจริง