ข่าว

ป้องกัน "โรคหลอดเลือดสมอง" หนึ่งในปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของ "โควิด-19"

ป้องกัน "โรคหลอดเลือดสมอง" หนึ่งในปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของ "โควิด-19"

05 ก.ค. 2564

"โรคหลอดเลือดสมอง" ถือเป็นหนึ่งในโรคที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของ "โควิด-19" ซึ่งเราจะเห็นตามรายงานจากข้อมูลผู้เสียชีวิตที่ทาง ศบค. ได้รายงานในทุกๆ วัน

"โรคหลอดเลือดสมอง" ถือเป็นหนึ่งในโรคที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของ "โควิด-19" ซึ่งเราจะเห็นตามรายงานจากข้อมูลผู้เสียชีวิตที่ทาง ศบค. ได้รายงานในทุกๆ วัน ซึ่งในแต่ละปีมีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองราวๆ 15 ล้านคนทั่วโลก และทุก 6 วินาทีมีคนตายด้วยโรคหลอดเลือดสมองอย่างน้อย 1 คน 

"โรคหลอดเลือดสมอง" (stroke) คือ ภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยงเนื่องจากหลอดเลือดตีบ หลอดเลือดอุดตัน หรือหลอดเลือดแตก ส่งผลให้เนื้อเยื่อในสมองถูกทำลาย การทำงานของสมองหยุดชะงัก

 

ความผิดปกติของ "หลอดเลือดสมอง" ที่ทำให้สมองขาดเลือด แบ่งได้เป็น 2 ประเภท

 

1.หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (ischemic stroke) เป็นสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง พบได้ประมาณ 80% หลอดเลือดสมองอุดตันเกิดได้จากลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นในบริเวณอื่นไหลไปตามกระแสเลือดจนไปอุดตันที่หลอดเลือดสมอง หรืออาจเกิดจากมีลิ่มเลือดก่อตัวในหลอดเลือดสมอง และขยายขนาดใหญ่ขึ้นจนอุดตันหลอดเลือดสมอง 

 

ส่วนสาเหตุของหลอดเลือดสมองตีบอาจเกิดจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบแคบ มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพในการลำเลียงเลือดลดลง

 

2.หลอดเลือดสมองแตก(hemorrhagic stroke) พบได้ประมาณ 20% ของโรคหลอดเลือดสมอง เกิดจากหลอดเลือดมีความเปราะบางร่วมกับภาวะความดันโลหิตสูง ทำให้บริเวณที่เปราะบางนั้นโป่งพองและแตกออก หรืออาจเกิดจากหลอดเลือดเสียความยืดหยุ่นจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด 

 

ทำให้หลอดเลือดปริแตกได้ง่าย ซึ่งอันตรายมากเนื่องจากทำให้ปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงสมองลดลงอย่างฉับพลันและทำให้เกิดเลือดออกในสมอง ส่งผลให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็วได้

 

ปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง ที่ป้องกันไม่ได้

 

- อายุ เมื่ออายุมากขึ้น หลอดเลือดก็จะเสื่อมตามไปด้วย โดยผิวชั้นในของหลอดเลือดจะหนาและแข็งขึ้นจากการที่มีไขมันและหินปูนมาเกาะ รูที่เลือดไหลผ่านจะแคบลงเรื่อยๆ

 

- เพศ พบว่าเพศชายมีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองสูงกว่าเพศหญิง

 

- ภาวะการแข็งตัวของเลือดเร็วกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดการจับตัวกันของเม็ดเลือดและมีลิ่มเลือดเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าคนปกติ

 

การรักษา

 

การรักษาขึ้นกับสาเหตุของโรคหลอดเลือดสมองว่าเป็นหลอดเลือดสมองตีบหรือหลอดเลือดสมองแตก โดยจะมีแนวทางการรักษาที่แตกต่างกัน

 

- หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน เป้าหมายของการรักษาคือทำให้เลือดไหลเวียนได้อย่างปกติ โดยทางเลือกในการรักษามีหลายวิธี ในบางกรณีแพทย์อาจให้ยาละลายลิ่มเลือด ซึ่งพบว่าจะได้ผลดีกับผู้ที่มีอาการและอาการแสดงของโรคหลอดเลือดสมองและรีบมาโรงพยาบาลภายในระยะเวลาไม่เกิน 4.5 ชั่วโมง

 

- หลอดเลือดสมองปริแตกหรือฉีกขาด เป้าหมายของการรักษาคือการควบคุมปริมาณเลือดที่ออกด้วยการรักษาระดับความดันโลหิต ในกรณีที่เลือดออกมาก แพทย์อาจพิจารณาทำการผ่าตัดเพื่อป้องกันความเสียหายต่อสมองที่อาจเกิดขึ้นหากมีการเปลี่ยนแปลงความดันโลหิต

 

 

 

 

ส่วน 8 เทคนิคป้องกันโรคหลอดเลือดสมองและการเกิดซ้ำ

 

1.เลิกสูบบุหรี่ 

 

2.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ (150 นาทีต่อสัปดาห์)

 

3.ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ผิดปกติ 

 

4.ลดการรับประทานอาหารรสเค็ม 

 

5.รับประทานผักและผลไม้ทุกวัน 

 

6.เลี่ยงอาหารไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว 

 

7.ตรวจวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ 

 

8.ควบคุมระดับไขมัน และน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม

 

ผู้ที่เคยเป็นโรคหลอดเลือดสมองต้องรับประทานยาป้องกันตามแพทย์สั่งสม่ำเสมอ เพราะโรคหลอดเลือดสมองมีโอกาสเป็นซ้ำ หากขาดการป้องกันควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อควบคุมปัจจัยเสี่ยง

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประธานหอการค้าสุรินทร์ โพสต์ติด"โควิด" ยุ่งแล้ว...ถ่ายรูปคู่"นายกฯ"-"บิ๊กตู่" กักตัว

เช็กด่วน.."ผู้ติดเชื้อโควิด-19วันนี้ "10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด ตจว. พุ่งแซง กทม.

ไม่ลดเลย "โควิดวันนี้" ผู้ป่วยใหม่พุ่งเกิน 6 พัน เสียชีวิตครึ่งร้อย

 

 

หลอดเลือดสมองหนึ่งในโรคปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของ "โควิด-19"

 

ป้องกัน \"โรคหลอดเลือดสมอง\" หนึ่งในปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของ \"โควิด-19\"

 

ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก : ศูนย์ข้อมูล COVID-19 , สสส. , โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์