แชร์ด่วน วีรบุรุษ "กิ่งแก้ว" "ลาดกระบัง" ไฟไหม้เบิก "ผิวหนัง" ใหม่ที่กาชาดไทย
เบิก "ผิวหนัง" ใหม่ได้ที่กาชาดไทย แชร์ด่วน วีรบุรุษ "กิ่งแก้ว" "ลาดกระบัง" ไฟไหม้ ไม่มีค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว
คลังเนื้อเยื่อ "ผิวหนัง" ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย พร้อมให้ความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ สำหรับวีรบุรุษเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เกิดอุบัติเหตุ กรณีโรงงานระเบิดไฟไหม้ที่ "กิ่งแก้ว" และ "ลาดกระบัง" ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับเนื้อเยื่อเพื่อรักษาแม้แต่บาทเดียว เพจเฟซบุ๊ก หมอเวร บอกว่า เมื่อวาน ผอ.ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ติดต่อหมอเวรมา อยากให้ช่วยประชาสัมพันธ์เรื่องนี้หน่อย ว่า ตอนนี้ที่กาชาดของเรา มีผิวหนังของคนที่มาบริจาคไว้พร้อมช่วยเหลือคนที่ประสบอุบัติเหตุไฟไหม้ หรือน้ำร้อนลวกทั้งหลายแล้ว ซึ่งเอาจริง ๆ หมอเวรก็เพิ่งทราบเหมือนกันว่ากาชาดไทยเรามีคลังผิวหนังแบบนี้คอยซัพพอร์ทผู้ป่วยด้วย ก็ถือเป็นความรู้ใหม่จริง ๆ ใครสงสัยว่าผิวหนังจากผู้บริจาคจะช่วยเหลือผู้ป่วยไฟไหม้ยังไงได้บ้าง ว่างแล้วอยากให้ลองอ่านดูก่อน
หลายคนอาจไม่ทราบว่าการทำแผล "ผู้ป่วยไฟไหม้" เนี่ย ไม่สามารถทำแผลง่าย ๆ เหมือนคนรถล้มอะไรนะ เพราะแผลอักเสบจากไฟไหม้นั้นสร้างความเจ็บปวดและทรมานเป็นอย่างมาก เพราะผิวหนังที่ถูกไฟไหม้เบิร์นไปหมดนั้น อย่าว่าแต่เจ็บปวดจากการทำแผลเลย เอาแค่ลมพัดมาโดนร่างกายก็ทรมานทุรนทุรายมาก ๆ แล้ว
อีกทั้งแผลไฟไหม้จะทำให้ร่างกายขาดเกราะป้องกันจากเชื้อโรคภายนอก และเชื้อโรคจะแทรกผ่านผิวหนังบริเวณนั้นเพื่อมาโจมตีเราได้ง่ายมาก ทำให้ส่วนใหญ่ผู้ป่วยไฟไหม้มักจะเสียชีวิตจากการติดเชื้อผ่านผิวหนัง เสียน้ำและเกลือแร่นั่นเอง
คนถูกไฟไหม้สมัยก่อน สมมติโดนเบิร์นด้านหน้าร่างกาย วิธีรักษา คือ แพทย์จะไถเอาผิวหนังจากด้านหลังเพื่อมาแปะบริเวณที่มันไหม้ ถ้ามีผิวหนังเหลือใช้รักษาได้แค่ไหนก็ทำได้แค่นั้น บริเวณอื่นทำได้เพียงล้างแผล พันผ้าก๊อซ ทำซ้ำแบบนี้ทุกวันเป็นเดือน ซึ่งสร้างความทรมานต่อผู้ป่วยเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่ต้องวางยาสลบก่อนทำแผลด้วยซ้ำ นึกภาพเราแกะสะเก็ดแผลเล็ก ๆ ยังเจ็บเลย แต่ถ้าโดนไฟไหม้มาแล้วแกะผ้าก๊อซทั้งตัว คือ เป็นอะไรที่ความเจ็บปวดเกินจินตนาการไปมาก ๆ
แต่ถ้าแพทย์ใช้ผิวหนังจริงจากคลังผิวหนังของกาชาด มาปะคนไข้บริเวณที่ถูกไฟคลอกแทนผ้าก๊อซ เทคนิคนี้จะช่วยลดอาการบาดเจ็บดังกล่าวได้หมดเลย รวมถึงทำให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้นมาก ๆ เนื่องจากไม่ได้เสียน้ำและเกลือแร่
การรับบริจาคอวัยวะในอดีตที่ผ่านมา บางส่วนจะมีการเก็บผิวหนังมาเอาไว้สำรองด้วย ทำให้ตอนนี้ที่กาชาดมี "คลังเนื้อเยื่อผิวหนัง" เกิดขึ้นแล้ว
เทคนิคการรักษา คือ แพทย์จะใช้อะไหล่ผิวหนังมาหุ้มแผลที่ถูกไฟไหม้ พูดง่าย ๆ คือ ใช้ผิวหนังจริงแทนผ้าก๊อซนั่นแหละ หลักการใช้เหมือนกัน ทำความสะอาดผิวให้เรียบร้อยก็แปะป๊าบลงไปได้เลย
ข้อดี คือ ถ้าใช้หนังจริง 7 - 10 วันถึงแกะเปลี่ยนผิวหนังรอบนึง ต่างจากผ้าก๊อซที่ต้องแกะล้างแผลทุกวัน สร้างความทรมานให้กับผู้ป่วยมากกว่า รวมถึงการใช้ผิวหนังจริงมาหุ้มไว้จะช่วยลดการติดเชื้อและให้เนื้อเยื่อผิวหนังของเราสมานกันเองได้ดีกว่า รวมถึง
พอมีชั้นผิวมาคลุมไว้แบบนี้ทำให้ร่างกายไม่สูญเสียโปรตีน แร่ธาตุ และน้ำเหลืองออกมาภายนอก ลดอาการอักเสบตัวบวม และเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับผู้ป่วยเป็นอย่างมาก
ซึ่งถ้าเทียบกับค่าใช้จ่ายผิวหนังแท้กับผ้าก๊อซที่ต้องเปลี่ยนหลายสิบม้วนต่อการรักษาแผลไฟไหม้แล้ว ผิวหนังแท้ถือว่ามีค่าใช้จ่ายที่ถูกและคุ้มค่ากว่า
จริงอยู่ที่โลกเรามีเทคโนโลยีผิวหนังเทียมแล้ว แต่ทว่าค่าใช้จ่ายยังมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ถ้าหากเป็นผิวหนังจากคลังกาชาด "ค่าใช้จ่ายตก 27 บาทต่อ ตร.เซนติเมตรเท่านั้น" ในกรณีที่คนไข้ที่รักษาด้วยผิวหนังแท้จากสภากาชาดไม่สามารถจ่ายค่าผิวหนังได้ ทางกาชาดยินดีให้ความอนุเคราะห์
เท่าที่หมอเวรรู้มา ถ้าเป็น Euro Skin Bank ที่ ยุโรป เนเธอร์แลนด์ คิดที่ 51.80 บาทต่อ ตร.เซนติเมตร หรืออย่าง เยอรมันนี คิดค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 64 บาท
ซึ่งราคาที่กาชาดไทยเคาะออกมาก็เห็น ๆ กันอยู่ว่า ถูกกว่าต่างประเทศเยอะ และเป็นราคาต้นทุนในการเก็บรักษาผิวหนังล้วน ๆ ไม่เจือปนกำไรแม้แต่สตางค์เดียว
และตอนนี้ที่กาชาดก็มีผิวหนังในสต็อกอยู่เกือบ 100,000 ตารางเซนติเมตรเลยก็ว่าได้ ใช้รักษาได้อีกหลายชีวิตเลยก็ว่าได้ และสามารถเบิกมาใช้ได้ทันทีถ้ามีเหตุต้องการ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ และหมอหลาย ๆ ท่านอาจยังไม่ทราบว่ามี "คลังผิวหนังกาชาด" อย่างที่หมอเวรบอกในตอนต้น ลำพังตัวหมอเวรเองยังเพิ่งทราบมาเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ฉะนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่คนส่วนใหญ่ และอาจารย์หมอหลาย ๆ ท่านอาจยังไม่ทราบว่ากาชาดก็มีออปชั่นนี้คอยช่วยเหลือผู้ป่วยไฟไหม้แบบนี้ด้วย
ซึ่งผิวหนังพวกนี้ค่อนข้างปลอดภัย ส่วนใหญ่จัดเก็บจากคนที่สมองตาย และเซ็นบริจาคอวัยวะเอาไว้แล้ว ซึ่งคนที่รับการปลูกถ่ายผิวหนังแบบนี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการเข้ากันได้ของผิวหนังใหม่กับร่างกายเดิมเลย สาเหตุก็เพราะว่าผิวหนังแท้เป็นผิวหนังที่ตายแล้ว
- ผิวหนังสามารถปลูกถ่ายให้กันข้ามกรุ๊ปเลือดได้
- ผิวหนังที่เตรียมใช้รอปลูกถ่ายนั้นมีความสะอาดเป็นอย่างมาก ผ่านการฆ่าเชื้อโดยการแช่ผิวหนังในน้ำยาฆ่าเชื้อมาแล้วเป็นอย่างดี สะอาดถึงระดับที่ว่าคนที่ติดเชื้อ HIV บริจาคผิวหนังให้ น้ำยาที่ใช้จัดเก็บก็สามารถฆ่าเชื้อ HIV ได้เลย ฉะนั้นปลอดภัยหายห่วงได้เลยและการเตรียมผิวหนังก็ทำในห้องสะอาด
ซึ่งถ้าผู้ป่วยเคสไฟไหม้ต้องการผิวหนัง สามารถรีเควสคุณหมอเจ้าของไข้ผ่านไปทางกาชาดได้เลย หรือจะติดต่อไปทางเบอร์ 1666 ก็ได้เช่นกัน
ช่วยกันบอกต่อ ๆ ไปเน้อ แค่ 1 แชร์ก็ช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้ใครต่อใครอีกหลายคนมาก ๆ แล้วล่ะ
และอีกประเด็นนึงที่ ผอ.ท่านฝากมา คือ กรณีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้จากโรงงานกิ่งแก้วและโรงงานที่ลาดกระบัง หากต้องการความช่วยเหลือด้านเนื้อเยื่อผิวหนัง ก็สามารถติดต่อได้ที่สภากาชาดไทยที่เบอร์ 1666 หรือจะติดต่อผ่านเพจหมอเวรก็ได้เช่นกัน เดี๋ยวช่วยประสานให้ ปกติจะมีค่าใช้จ่าย แต่สำหรับวีรบุรุษเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เกิดอุบัติเหตุทุกท่าน งานนี้กาชาดขอช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับเนื้อเยื่อเพื่อรักษาแม้แต่บาทเดียว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไฟไหม้ "โรงงานกิ่งแก้ว" หดหู่นะเว้ย "ก้อง ห้วยไร่" ถามหา "จีโน่" อยู่ไหน
- "น้ำตาล ชลิตา" อยากเอาสลิ่มมาเผาในกองเพลิง รก ไฟไหม้ "โรงงานกิ่งแก้ว"
- สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป แจงเหตุระเบิด "โรงงานกิ่งแก้ว"
- ไฟไหม้ "โรงงานกิ่งแก้ว" จับตาใกล้ชิดสารพิษปนเปื้อนระมัดระวังการใช้น้ำช่วงนี้
- บึ้มสนั่นกลางดึก "ไฟไหม้กิ่งแก้ว" โรงงานพลาสติก ซ.กิ่งแก้ว 21 (มีคลิป)