มะยม "ไม้มงคล" สารพัดประโยชน์ ทั้งต้น ราก ใบ ดอก ผล
มะยม "ไม้มงคล" ที่นิยมปลูกในหลายพื้นที่ประเทศไทย มีคุณประโยชน์ทั้งทางอาหาร รวมไปถึงทางยา ทุกส่วนของมะยมล้วนมีแต่ประโยชน์
ต้นไม้มงคลในยุคสมัยนี้มีให้เราเห็นกันอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ต้นแก้ว ต้นโกศล ต้นกวนอิม เป็นต้น แต่ต้นไม้มงคลที่เรามักคุ้นเคยกันในสมัยก่อนที่หลายบ้านนิยมปลูก โดยเฉพาะในต่างจังหวัด คือ ต้นมะยม ที่เป็นต้นไม้มงคลและผลของมะยมยังรับประทานได้อีกด้วย
มะยม มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ ว่า Phyllanthus acidus skeels อยู่ในวงศ์ยางพารา มะยมเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กจนถึงกลาง มีอายุยืนมากกว่า 10 ปี สามารถสูงได้ถึง 10 เมตรเลยก็๋ว่าได้ ลักษณะลำต้นของมะยมจะตั้งตรง มีผิวขรุขระสีน้ำตาลอมเทา มีกิ่งก้านที่บางหักง่าย ใบมีสีเขียวอ่อน ผลมะยมสีเขียวและจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเมื่อสุกเต็มที
มะยม เป็นที่นิยมปลูกกันหลายภาคในประเทศไทยและจะมีชื่อเรียกที่ต่างกันออกไป เช่น ภาคอีสานหมากยม ภาคใต้เรียกว่ายม ทั้งนี้ที่นิยมปลูกกันเนื่องด้วยมะยมเป็นต้นไม้ที่ปลูกง่าย สามารถทำได้เพาะเมล็ด หรือตอนกิ่ง และยังไม่ค่อยมีศัตรูพืชคอยรบกวน และนอกเหนือสิ่งอื่นใด มะยม ถือว่าเป็นต้นไม้มงคลอีกชนิดหนึ่ง
ด้านคุณประโยชน์ของ ผลมะยม นั้น เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซี โดยมะยม มักจะถูกนำมาเป็นเมนูอาหารมีทั้งกินสด หรือ นำมาตำมะยม แต่อย่างไรก็ดีสำหรับคนไม่ชอบทานรสเปรี้ยวมะยมยังสามารถนำมาเชื่อม แช่อิ่ม ดอง เพื่อลดความเปรี้ยวลงได้อีกด้วย
นอกจากนี้จะเป็นอาหารแล้วมะยมยังมีสรรคุณทางยาอีกด้วย เช่น
- ราก แก้โรคผิวหนัง ผดผื่่นคัน
- เปลือกต้น แก้ไข้ทับระดู ระดูทับไข้
- ใบ ใช้เป็นส่วนหนึ่งของยาเขียวแก้ไข้
- ดอก ใช้ต้มกรองเอาแต่น้ำแก้โรคในตา แก้ไอ ระบายท้อง
เห็นต้นมะยมเขียวระรื่นตา ทำให้ย้อนคิดถึงว้ยเด็กวันวานที่เด็ก ๆ มักชอบปีนต้นมะยมเพื่อขึ้นไปเก็บผลมากินกันอย่างออกรสกับกลุ่มเพื่อน ๆ และควาทรงจำวัยเยาว์อีกอย่างที่มีต่อมะยม คือ ก้านมะยม ไม้มงคล ที่เด็กต่างจังหวัดแสนซนมักได้เคยลิ้มรสก้านมะยมของแม่ ที่ไม่ออกรสเปรี้ยว แต่ออกรสเจ็บมากกว่า