"หมอธีระวัฒน์" ชี้ "โควิด-19" หลุดจากไหนไม่สำคัญ แนะ พัฒนาหายาต้านจะดีกว่า
"หมอธีระวัฒน์" แนะ อย่าไปสน"โควิด-19" หลุดจากไหน แนะ หันมาพัฒนา หายาต้านไวรัสจะดีกว่า
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุคส่วนตัว เรื่อง ไวรัสหรรษา โดยมีใจความว่า โควิด หลุดจากแลป อู๋ฮั่น และไวรัสมีการปรับแต่งเพื่อการศึกษา หรือ โควิดเกิดในสหรัฐฯ ก่อนหน้าระบาด ซึ่งคณะผู้เชี่ยวชาญทางไวรัสหลายคณะ มีความเห็นขัดแย้ง สนับสนุน และคัดค้านตลอดกันมา ล่าสุด องค์การอนามัยโลก ระบุว่า เร็วเกินไปที่จะตัดประเด็น หลุดจากห้องแลป
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ ให้ความเห็นว่า ความจริง คงไม่ได้อยู่ที่คณะผู้เชี่ยวชาญมีกี่คณะ พวกไหนมากกว่า หรือเสียงดังกว่า แต่น่าจะอยู่ที่หลักฐาน และต่อจากนี้ ควรหรือไม่ ที่จะมีการศึกษา ตัดต่อพันธุกรรมของไวรัสจากสัตว์ให้เก่งขึ้น อย่างที่เกิดไปแล้ว และให้มีการก่อโรคในคน เพื่อดูวิวัฒนาการ และพัฒนา ยา วัคซีน
ควรหรือไม่ ที่จะเข้าไปศึกษาในสัตว์ป่าเพื่อหาไวรัส หรือจะจำกัดที่ขอบเขตใดที่ให้ประโยชน์คุ้มค่าต่อการวางแผนรับมือในมนุษย์ และความปลอดภัยสูงสุด
หรือจะหันมาหาเชื้อในคนที่ก่อโรค โดยยังไม่รู้สาเหตุ มากกว่า 50% และต้องรักษาในลักษณะของความน่าจะเป็นและใช้กลุ่มยาแบคทีเรียหรือไวรัสหรือยากดภูมิคุ้มกัน
โดยก่อนหน้านี้ มีข้อมูลว่า 1 ในสมมติฐานเกี่ยวกับที่มาของโควิด-19 คือ เชื้อไวรัสนั้น ถูกพัฒนาขึ้นภายในห้องแล็บของสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น ก่อนจะรั่วไหลออกมาและแพร่กระจายสู่ภายนอก จนทำให้เกิดการระบาดรุนแรง เริ่มต้นจากเมืองอู่ฮั่น ขณะที่ ข้อมูลจากทางการสหรัฐฯ เกี่ยวกับการสืบสวนที่มาของโควิด-19 ที่ดำเนินการโดยห้องปฏิบัติการแห่งชาติ Lawrence Livermore ในรัฐแคลิฟอร์เนีย พบว่า สมมติฐานไวรัสหลุดออกมาจากห้องแล็บนั้นมีความเป็นไปได้ และควรมีการสืบสวนต่อ นอกจากนี้ Vanity Fair ยังรายงานว่า การสืบสวนทฤษฎีไวรัสหลุดจากห้องแล็บในอู่ฮั่นนั้น ถูกระงับในบางหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลบางคนกังวลว่า ห้องแล็บอู่ฮั่นที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากสหรัฐฯ นั้น อาจเป็นต้นตอของการระบาด
ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าว ทำให้ข้อสงสัยเรื่องทฤษฎีไวรัสหลุดจากห้องแล็บมีมากขึ้น แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีข้อมูลและหลักฐานยืนยันแน่ชัด ทำให้นักวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วย และคัดค้านความเป็นไปได้นี้