"หมอบุญ"เผย ถูกสั่งห้ามพูด ปมดีล"ไฟเซอร์" เพราะเข้าข่ายปั่นหุ้น
"หมอบุญ"เผย ถูกสั่งห้ามพูด ปมดีล"ไฟเซอร์" หวั่น ถูกปรับ 2 ล้านบาท เพราะเข้าข่ายปั่นหุ้น
จากกรณีที่ทางโรงพยาบาลธนบุรี จะเซ็นสัญญากับตัวแทนในสหรัฐฯ เพื่อสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 ของ BioNTech ซึ่งเป็นวัคซีนชนิด mRNA ในกลุ่มไฟเซอร์ที่ร่วมกันพัฒนา จำนวนทั้งหมด 20 ล้านโดส ซึ่งล็อตแรกที่จะนำเข้ามาในช่วงปลายเดือน ก.ค.นี้ ราว 5 ล้านโดส โดยจะมีการเซ็นสัญญา จากที่เลื่อนจากเมื่อวาน(15 ก.ค.2564) มาเป็นวันนี้นั้น (16 ก.ค.2564)
ล่าสุด นายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัท ธนบุรี เฮลธ์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์กับ"คมชัดลึกออนไลน์" ถึงความคืบหน้าในเรื่องนี้ว่า จะไม่ขอพูดถึงประเด็นนี้อีก เพราะเป็นเรื่องของข้อกฎหมาย และทางคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ กลต.) ได้สั่งห้ามไม่ให้พูดอะไร เนื่องจากเข้าข่ายปั่นหุ้น ซึ่งอาจถูกปรับถึง 2 ล้านบาท ทางเครือโรงพยาบาลธนบุรี คงทำได้แค่อยู่ข้างหลัง ความคืบหน้าต่างๆ ขอให้สอบถามกับทีมทนาย ซึ่งเป็นตัวแทนในการเจรจา
สำหรับประเด็นการนำเข้าวัคซีนนี้ เกิดขึ้นภายหลังจากที่ นายแพทย์บุญ ประกาศจะนำเข้าวัคซีนจากบริษัทไบโอเอ็นเทคของเยอรมนี ผู้พัฒนาวัคซีนโควิด ชนิดเดียวกันร่วมกับไฟเซอร์ แต่อยู่ๆ ทางไบโอเอ็นเทค ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า ทางไบโอเอ็นเทคจะไม่มีการเจรจาใด ๆ กับทางบริษัท รวมทั้งยังปฏิเสธว่า ไม่มีการเจรจากับผู้แทนใด ๆ จากเมืองไทย
ขณะที่นายแพทย์บุญ ก็ออกมาโต้ตอบว่า เป็นเรื่องปกติที่ทาง บริษัท ไบออนเทค ของเยอรมนี จะปฎิเสธ เพราะเป็นเรื่องของข้อกฎหมาย ที่ตามปกติแล้ว การเซ็นสัญญาจัดซื้อวัคซีน ต้องเป็นหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐ เนื่องจากต้องเป็นการจัดซื้อแบบ G2G ข้อมูลทุกอย่างห้ามเปิดเผย จนกว่าจะมีการเซ็นสัญญาเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตามข้อกฎหมาย ผู้ที่นำเข้าวัคซีนได้ มีเพียง 5 หน่วยงานเท่านั้น คือ กรมควบคุมโรค, องค์การเภสัชกรรม, สถาบันวัคซีนแห่งชาติ, สภากาชาดไทย, ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งทางนายแพทย์บุญ ยังคงปฎิเสธที่จะขอบอกว่า ใครคือ "ตัวกลาง" ผู้ประสานดีลนี้