สวนดุสิตโพล ปชช. เชื่อว่าไทยจะใช้เวลามากกว่า 2 ปี จึงจะผ่านวิกฤติโควิด
สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจ ประชาชนกลุ่มตัวอย่าง เชื่อว่า ไทยจะใช้เวลามากกว่า 2 ปี จึงจะผ่านวิกฤติโควิด ส่วน "สูตรวัคซีนในใจ" เชื่อมั่น "ซิโนแวค" น้อยลง
วันที่ 18 ก.ค. 2564 สวนดุสิตโพล เปิดเผยผลสำรวจ “คนไทยในยุควิกฤติ โควิด-19” โดยทำการสำรวจทางออนไลน์ ประชาชนทั่วประเทศ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,702 คน ระหว่างวันที่ 5-15 ก.ค. 2564 ดังต่อไปนี้
1. การฉีดวัคซีนโควิด-19 ของประชาชน ณ วันนี้
ยังไม่ได้ฉีด 49.35%
ฉีดแล้ว 1 เข็ม 38.84%
ฉีดแล้ว 2 เข็ม 11.81%
2. หากฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว ประชาชนอยากฉีดวัคซีนเข็มที่ 2-3 เป็นยี่ห้อใด
เข็มที่ 1 แอสตร้าเซนเนก้า อยากฉีดเข็มที่ 2-3 เป็น แอสตร้าเซนเนก้า 41.86% ไฟเซอร์ 25.39% โมเดอร์นา 24.22%
เข็มที่ 1 ซิโนแวค อยากฉีดเข็มที่ 2-3 เป็น ไฟเซอร์ 30.07% โมเดอร์นา 26.09% ซิโนแวค 22.46%
เข็มที่ 1 ซิโนฟาร์ม อยากฉีดเข็มที่ 2-3 เป็น ซิโนฟาร์ม 50.00% โมเดอร์นา 25.00% ไฟเซอร์ 16.67%
3. ประชาชนคิดว่าสถานการณ์ประเทศไทย ณ วันนี้อยู่ในภาวะวิกฤติมากน้อยเพียงใด
วิกฤติมาก 60.93%
วิกฤติ 24.12%
ค่อนข้างวิกฤติ 14.95%
4. เหตุการณ์หรือสถานการณ์ใดที่บ่งชี้ว่าประเทศไทยเข้าสู่ภาวะวิกฤติ
อันดับ 1 ยอดผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น 89.24%
อันดับ 2 บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิด-19/คนทำงานไม่เพียงพอ 81.08%
อันดับ 3 สถานประกอบการ/ร้านค้า ปิดกิจการ คนตกงาน ว่างงาน 77.71%
อันดับ 4 การฉีดวัคซีนล่าช้า วัคซีนไม่มีประสิทธิภาพ 75.75%
อันดับ 5 ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ได้ 73.45%
5. ประชาชนคิดว่าประเทศไทยควรทำอย่างไร จึงจะฝ่าวิกฤติโควิด-19 ได้
อันดับ 1 รัฐบาลต้องจริงใจ ไม่แสวงหากำไรจากประชาชน 78.47%
อันดับ 2 ฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพให้บุคลากรทางการแพทย์โดยเร็ว 76.70%
อันดับ 3 จัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและหลากหลายยี่ห้อให้ประชาชน 75.04%
อันดับ 4 มีการตรวจหาเชื้อเชิงรุก กักพื้นที่การแพร่ระบาด 74.69%
อันดับ 5 หยุดเล่นเกมการเมือง เปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านเข้ามาช่วยกันทำงาน 69.97%
6. ประชาชนคิดว่าประเทศไทยจะผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้เมื่อไร
มากกว่า 2 ปี 36.74% 1 ปี 27.60% 2 ปี 25.93% 6 เดือน 9.73%
7. ประชาชนคิดว่าใคร/หน่วยงานใดที่จะช่วยพาให้ประเทศไทยฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปได้
อันดับ 1 ประชาชนทุกภาคส่วนช่วยกัน 36.15%
อันดับ 2 นายกรัฐมนตรี 17.03%
อันดับ 3 กระทรวงสาธารณสุข 10.61%
อันดับ 4 ตนเอง 9.77%
อันดับ 5 กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ 9.71%