"ไอเวอร์เม็กติน" เป็นแค่ยาฆ่าพยาธิหรือ"โควิด-19"
กระแสการใช้ยาฆ่าพยาธิ "ไอเวอร์เม็กติน" เพื่อช่วยรักษาอาการผู้ติดเชื้อ"โควิด-19" กลับมาอีกครั้ง ไปทำความรู้จักยาตัวนี้ ว่าเป็นเพียงแค่ยาฆ่าพยาธิ หรือ "โควิด-19"
สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ทวีความรุนแรงขึ้น แต่การเข้าถึงของวัคซีนโควิด-19 ยังเข้าไม่ถึงประชาชน และขณะนี้ ก็ยังไม่มียารักษาเฉพาะสำหรับการติดเชื้อไวรัส Covid-19 เป็นเพียงการรักษาตามอาการ และเป็นการรักษาด้วยยาเดิมที่มีในท้องตลาด ทั้ง ฟ้าทะลายโจร , ยาฟาวิพิราเวียร์ และที่มีการถูกพูดถึงอีกชนิด คือ ยาฆ่าพยาธิไอเวอร์เม็กติน หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า สามารถรักษาโรคโควิด-19 ได้ ในทวีปอเมริกาใต้ แต่ในขณะนี้ ยังไม่มีการทดลองทางการแพทย์กับยาดังกล่าว
ขณะที่ทาง นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา สรุปว่า ยาไอเวอร์เม็กติน ยังไม่ได้รับการรับรองให้ใช้สำหรับการป้องกัน หรือ รักษาโรคติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด มีเพียงการใช้ในขั้นตอนการศึกษาวิจัยทางคลินิก ซึ่งต้องใช้เวลาในการรอผลการศึกษา จึงขอประชาชนอย่าเพิ่งใช้ยาดังกล่าว เพื่อการรักษาโควิด-19 เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ขณะเดียวกัน ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลับออกมาระบุล่าสุดว่า ยาตัวนี้ปลอดภัย และถูก สามารถใช้ตั้งแต่เริ่มอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบฟ้าทะลายโจร ได้
ทำความรู้จักยาไอเวอร์เม็กติน
ยาไอเวอร์เมกติน (Ivermectin)เป็น "ยาฆ่าพยาธิ" ซึ่งใช้รักษาโรคที่มีสาเหตุจากพยาธิตัวกลม เช่น โรคพยาธิไส้เดือน โรคพยาธิตัวจี๊ด และโรคจากปรสิตบางชนิด เช่น โรคหิด หรืออาจใช้รักษาโรคอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ตามดุลยพินิจของแพทย์ เนื่องด้วย ยาไอเวอร์เมกติน มีข้อห้ามใช้และอาจเกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้น การใช้ยาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรเสมอ
คำแนะนำการใช้
สำหรับปริมาณการใช้ ยาไอเวอร์เมคติน นั้น ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยา ดังนี้ โรคพยาธิไส้เดือน สำหรับฆ่าพยาธิ Ascaris Lumbricoides ผู้ใหญ่ รับประทานยาปริมาณ 150-200 ไมโครกรัม/น้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม รับประทานครั้งเดียว ส่วนเด็กน้ำหนักตัวมากกว่าหรือเท่ากับ 15 กิโลกรัม รับประทานยาปริมาณ 150-200 ไมโครกรัม/น้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม รับประทานครั้งเดียว
อันตรายที่เกิดจากยา
1. อาการที่ต้องหยุดยาแล้วรีบไปพบแพทย์ทันที
- ลมพิษ บวมที่ใบหน้า เปลือกตา ริมฝีปาก
- หน้ามืด เป็นลม แน่นหน้าอก หายใจลำบาก
- ผื่นแดง ตุ่มพอง ผิวหนังหลุดลอก มีจ้ำตามผิวหนัง หรือเลือดออกผิดปกติ
- อาการชัก “ให้หยุดยาแล้วรีบไปพบแพทย์ทันที”
2. อาการที่ไม่จำเป็นต้องหยุดยา แต่ถ้ามีอาการรุนแรงให้ไปพบแพทย์
- ปวดท้อง คลื่นไส้ ปวดศรีษะ มึนงง อ่อนเพลีย ผื่นคันเล็กน้อย
“ไม่จำเป็นต้องหยุดยา แต่ถ้ามีอาการรุนแรงให้ไปพบแพทย์”
สรุปแล้ว จากคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ‘ยาไอเวอร์เม็กติน’ ไม่พิจารณาให้ใช้สำหรับผู้ป่วยโควิด -19 เนื่องจากมีข้อมูลการศึกษาพบว่าไม่ช่วยลดอัตราการตาย การใช้เครื่องช่วยหายใจ และการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของผู้ป่วย
ด้านองค์การอาหารและยาของสหรัฐ (USFDA) ไม่อนุมัติให้มีการใช้ยานี้ในการป้องกัน หรือการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในมนุษย์เช่นเดียวกัน
ขณะที่องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ระบุว่า ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลเพียงพอในการสนับสนุนการใช้ยาไอเวอร์เม็คติน สำหรับการป้องกัน หรือการรักษาโควิด-19 ในสหภาพยุโรป แต่ให้ใช้ในการศึกษาทางคลินิกเท่านั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"หมอดื้อ" ร่ายยาวรายวัน"โควิด-19" ระลอก 3 ชุดใหญ่ไฟกระพริบ