ชง ครม."ลดค่าเทอม 5 พัน-ช่วยค่าใช้จ่ายเรียนออนไลน์"อังคารหน้า
"นายกฯ"เห็นชอบตามที่ รมว.ศึกษาฯ- รมว.การอุดมศึกษาฯชงลด"ค่าเล่าเรียน"- "ค่าธรรมเนียมการศึกษา"ให้นักเรียน-นักศึกษา ช่วยผู้ปกครองบรรเทาพิษโควิด-19 คนละ 5,000 บาท เตรียมเสนอเข้า ครม.พิจารณาอังคารหน้า
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าเมื่อวานนี้ (21 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมได้เห็นชอบในหลักการแนวทางลดค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของนักเรียนและนักศึกษาในปีการศึกษา 2564 ตามที่ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ และ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เสนอ
ทั้งนี้ทางกระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดทำมาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเรียนรู้เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายต่างๆของนักเรียน ครู และผู้ปกครองในสถานการณ์โควิด จะครอบคลุมทั้งโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.)โรงเรียนสังกัดกทม.และโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)
ขณะที่ ทาง อว.ได้เตรียมมาตรการครอบคลุมสถาบันอุดมศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน โดยสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐ จะมีการลดค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมการศึกษาโดยกำหนดเป็น 3 ขั้น ได้แก่
ขั้นที่ 1 ส่วนที่ไม่เกิน 50,000 บาท ลดค่าเล่าเรียนหรือค่าธรรมเนียมการศึกษา ร้อยละ 50
ขั้นที่ 2 ตั้งแต่ 50,001-100,000 บาท ลดร้อยละ 30
และขั้นที่ 3 ตั้งแต่ 100,001 บาทขึ้นไป ลดร้อยละ 10 โดยรัฐบาลจะสนับสนุนงบประมาณสำหรับส่วนลดนี้ร้อยละ 60 และสถาบันอุดมศึกษาสมทบร้อยละ 40
ในส่วนของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน รัฐบาลจะสนับสนุนลดค่าเล่าเรียนหรือค่าธรรมเนียมการศึกษาคนละ 5,000 บาท และให้ทางสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแต่ละแห่งพิจารณาลดค่าเล่าเรียนเพิ่มเติม และสนับสนุนมาตรการอื่นๆ
เช่น ขยายเวลาผ่อนชำระหรือผ่อนจ่ายค่าธรรมเนียมการศึกษา ตั้งกองทุนสนับสนุนการศึกษา จัดหาอุปกรณ์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับนักศึกษายืมเพื่อใช้ในศึกษาออนไลน์ ส่วนลดค่าหอพักนักศึกษา จัดสวัสดิการพิเศษกรณีนักศึกษาป่วยด้วยโรคโควิด เป็นต้น
“การช่วยเหลือค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของบุตรหลานจะช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองได้อย่างมาก ซึ่งเป็นอีกมาตรการเร่งด่วนที่นายกรัฐมนตรีเร่งรัดให้เกิดผลในทางปฏิบัติ ทั้งนี้มาตรการที่ท่านนายกได้เห็นชอบในหลักการครั้งนี้ จะนำเข้าให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันที่ 27 ก.ค.ต่อไป” นางสาวรัชดาฯ กล่าว