เเจ้งจับ "อาสา" บริษัท "เอาท์ซอร์ส" นำโควตา "วัคซีน" บางซื่อ ขายหัวละ 500-1000
เเจ้งจับ "อาสา" นำโควตาฉีด "วัคซีน" บางซื่อขายหัวละ 500-1000 บาท ทำมาแล้ว 3 วัน วันละ 1,500 คน สั่งแจ้งดำเนินคดี พร้อมเร่งสอบสวนเพิ่ม มีเจ้าหน้าที่ร่วมขบวนการหรือไม่
วันนี้ (28 ก.ค.2564) กรณีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อว่า วันนี้ (28 ก.ค. 2564) พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ได้จับทุจริตการลงทะเบียนฉีด COVID-19 ซึ่งเป็นบริษัท"เอาท์ซอร์ส" เข้ามาทำหน้าที่ "อาสา"
พบว่า มีผู้ลงระบบผ่านบริษัททรูฯ และนำเอาโควต้าไปขายสิทธิ ซึ่งดำเนินการดังกล่าวมา 3 วันแล้ว วันละ 1,500 คน โดยในวันนี้จับผู้กระทำความผิด และดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ความคืบหน้าล่าสุด จากการสอบสวนทราบว่า เป็นเจ้าหน้าที่ หรือ อาสาที่เข้ามาทำหน้าที่ โดยเครือข่ายมือถือทรู ไปจ้าง"เอาท์ซอร์ส"เข้ามาทำหน้าที่เป็น "อาสา" ซึ่งพบความผิดปกติว่า ทางศูนย์ฉีดวัคซีนไม่ได้เปิดให้คนลงทะเบียน เเต่ทำไม มีรายชื่อลงในระบบการลงทะเบียนทุกวัน ยกเว้นกรมการกงสุล ที่จะลงทะเบียนได้ เพราะเป็นคนจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ หลังพบความผิดปกติ ทางศูนย์จึงได้ตรวจสอบรายชื่อคนที่ลงทะเบียน ที่จะเข้ารับการฉีดวันนี้ เเละ ให้เจ้าหน้าที่ประกบตัว ลํอคเป้าหมาย เมื่อเข้ารับการฉีด จึงนำกลุ่มคนเหล่านี้มาสอบว่าทะเบียนได้อย่างไร ผู้ที่เข้าฉีด ก็รับสารภาพเเละบอกว่ามีคนลงให้ บ้างก็บอกซื้อโควต้ามา ส่วนค่าใช้จ่ายเเล้วเเต่ตกลงกัน ซึ่งพบว่า ตั้งเเต่500ไปจนถึง 1,000บาท หลังจากนั้นจึงเรียกเจ้าหน้าที่ อาสามาสอบสวน
ในเบื้องต้นพบว่า จนท.อาสา มีความผิดชัดเจน4 คน เเละกำลังสอบสวนเพิ่มเติมอีก 10 คน ที่ร่วมขบวนการนี้ สำหรับบทลงโทษมีโทษจำคุก 3-10 ปี
นอกจากนี้ยังเร่งขยายผลว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐ ร่วมรู้เห็นหรือไม่ หากพบจะเข้าข่ายความผิด มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งผู้ที่ซื้อสิทธิ ถ้าให้ความร่วมมือ ให้ปากคำให้หลักฐานการโอน ติดต่อกับตัว กลางจะกันไว้เป็นพยานจะฉีดวัคซีนให้ แต่หากไม่ให้ความร่วมมือจะไม่ฉีดวัคซีน และถือว่าเป็นผู้ต้องหา