หมอสุวรรณชัย ชี้ "ฟู๊ดไรเดอร์" จับกลุ่มรวมตัว ไม่ใส่หน้ากากอนามัย มีความผิด ปรับตั้งแต่ 1พัน-2หมื่นบาท
อธิบดีกรมอนามัย ชี้ "ฟู๊ดไรเดอร์"จับกลุ่มรวมตัวกันระหว่างรอรับอาหาร ไม่ใส่หน้ากากอนามัย มีความผิด โทษปรับตั้งแต่ 1พัน-2หมื่นบาท ประชาชนพบเห็นสามารถแจ้งได้ที่สาธารณสุขจังหวัด
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยในการแถลงข่าวของกระทรวงสาธารณสุขว่า กรณีที่ประชาชนสอบถามถึงการพบเห็น ฟู๊ดไรเดอร์ หรือพนักงานรับส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ มักรวมกลุ่มกัน และไม่ใส่หน้ากากอนามัย ระหว่างรอรับอาหาร จะมีความผิดหรือไม่นั้น สำหรับส่วนนี้ก็มักจะเป็นสาเหตุของโอกาสในการแพร่เชื้อและก็เกิดกลุ่มก้อนของการระบาดของโรคโควิด-19 เช่นกัน
ทั้งนี้พนักงานส่งอาหาร โดยปกติจะแยกเป็น 2 กลุ่ม คือ full time กับกลุ่ม part time ซึ่งในส่วนของfull time นั้น ผู้ประกอบการจะมีการเข้มงวด และมีการกำกับเป็นอย่างดี และบางรายได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว ปัญหาส่วนใหญ่จะเกิดในส่วนของกลุ่ม Part time เป็นส่วนใหญ่ ในส่วนของประเด็นที่ได้รับการร้องเรียน กรณีที่พนักงานส่งอาหารรอรับอาหาร จะขอแยกเป็น 2 กรณี กรณีแรกในเรื่องของตัวร้านอาหารภายนอกห้าง หรือร้านอาหารที่เป็นแบบ stand alone ต่าง ๆเหล่านี้ ก็ต้องขอความร่วมมือแต่ละร้าน ต้องควบคุม และจัดระบบจุดรับส่งอาหาร ซึ่งอันนี้ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ เพราะจะเป็นประโยชน์ในเรื่องของการลดการแพร่ระบาดมาสู่ร้านเอง และเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดในส่วนของร้านอาหารที่อยู่ในตัวห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า หรือ community Mall มีการกำหนดในข้อกำหนดฉบับที่ 30 ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค นี้ ว่าห้างสรรพสินค้ามีหน้าที่และความผิดชอบ ที่จะต้องจัดระบบควบคุม กำกับให้มีในส่วนของจุดรอรับอาหาร
ทั้งนี้หากพนักงานส่งอาหาร หรือ ฟู๊ดไรเดอร์ ที่มารวมกลุ่มมีการแออัดและก็ไม่มีการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด ในส่วนนี้มีข้อกำหนด ที่ออกตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ร่วมกับพรบ.โรคติดต่อ ว่ากรณีที่อยู่นอกเคหะสถานถ้าไม่สวมหน้ากากมีความผิดและคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติได้มีการออกระเบียบตามมาตรา 34(6) มีการกำหนดความผิด ในเรื่องของการรวมกลุ่ม และไม่สวมหน้ากากอนามัย ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยกัน การสูบบุหรี่ หรือมีกิจกรรมนันทนาการใดๆก็ตามมีความผิด
หากพบว่าเป็นการกระทำครั้งแรกจะมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท หากเป็นครั้งที่ 2 ปรับระหว่าง 1,000 บาท - 10,000 บาท และหากมีการกระทำซ้ำเป็นครั้งที่ 3 มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 - 20,000 บาท โดยจะเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ซึ่งออกประกาศข้อกำหนดไว้ชัดเจน
ทั้งนี้หากประชาชนช่วยกันคนละไม้คนละมือเป็นหูเป็นตาในการสอดส่องหากพบเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว แจ้งไปที่สาธารณสุขจังหวัด หรือสำนักอนามัยของกรุงเทพฯ อย่าปล่อยให้พฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นเรื่องปกติหรือเรื่องที่ยอมรับได้