
ฉีดวัคซีน "Pfizer" ไม่ง่าย จัดเก็บผสมเงื่อนเวลาจัดส่งไม่สะเทือนไม่คว่ำไม่เขย่า
อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตอบข้อสงสัยการบริหารจัดการวัคซีน โควิด-19 ไฟเซอร์ "Pfizer" เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดก่อนนำไปฉีด
ผศ.ภก.ดร. บดินทร์ ติวสุวรรณ อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ผศ.ภญ.ดร. ณัฎฐดา อารีเปี่ยม อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้แจงการบริหารจัดการวัคซีน โควิด-19 ไฟเซอร์ "Pfizer" ที่สหรัฐอเมริกาส่งมาให้กับประเทศไทย ว่า วัคซีน ไฟเซอร์ "Pfizer" มาถึงประเทศไทยแล้ว 1,503,450 โดส ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหม่ที่คนไทยไม่เคยใช้วัคซีนยี่ห้อนี้มาก่อน โดยวัคซีน ไฟเซอร์ "Pfizer" มี 2 รูปแบบฉลาก ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าวัคซีนที่ส่งมาให้ไทยรูปแบบฉลากเป็นแบบไหน แต่สิ่งสำคัญ คือ เอกสารใบกำกับยาที่ติดมากับวัคซีนที่จะต้องอ่านในรายละเอียด
ผศ.ภก.ดร. บดินทร์ บอกถึงกระบวนการจัดส่งวัคซีน ไฟเซอร์ "Pfizer" รวมถึงการจัดเก็บ
- วัคซีนไฟเซอร์ค่อนข้างบอบบาง
- ไวต่อแสงแดด ไวต่ออุณหภูมิมาก
- ต้องจัดเก็บ อุณหภูมิติดลบ 60 องศาฯ
- เก็บวัคซีนได้นานตามอายุที่ระบุในฉลาก
- ที่อุณหภูมิติดลบ 20 ถึงติดลบ 25 องศาฯ วัคซีนจะอยู่ได้ 14 วัน และ
- ถ้าเก็บวัคซีนในอุณหภูมิของตู้เย็น จะอยู่ได้อีก 31 วัน
- กรณีขนส่งไปต่างอำเภอ อุณหภูมิจะอยู่ที่ 2 - 8 องศาฯ ต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 12 ชม.
- การขนส่งควรหากล่องและหาตัววางวัคซีนที่ดี
- ต้องไม่ให้เกิดการสั่นสะเทือน ต้องไม่คว่ำ ต้องไม่เขย่าขวดวัคซีน
ผศ.ภญ.ดร. ณัฎฐดา อธิบายถึง การผสมวัคซีนและการฉีดวัคซีน
- วัคซีนที่ถูกผสมแล้วจะอยู่ได้ 6 ชม. ในอุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาฯ หลังจากเจือจาง
วิธีการผสมวัคซีน ไฟเซอร์ "Pfizer"
- นำวัคซีนออกมาจากตู้เย็น เมื่ออุณหภูมิเท่ากับภายในห้อง พลิกวัคซีน 10 ครั้ง
- เตรียมน้ำเกลือ ใช้ไซริงค์ ขนาด 3 ml และใช้เข็มเบอร์ 21 หรือเล็กกว่า
- ดึงน้ำเกลือมา 1.8 ml จากนั้นทำการเติมลงไปในขวดวัคซีน โดยค่อย ๆ ดันลงไป เพราะจะมีแรงดัน
- ดึงอากาศออก 1.8 ml เพื่อไม่ให้เกิดฟองอากาศ
- พลิก 10 ครั้ง เพื่อให้เกิดการผสม
- เขียนเวลา / วันที่ / ชื่อคนผสม ข้างขวด
- 1 Vial สามารถดูดวัคซีนได้ 6 โดส ในอุณหภูมิ 30 องศาฯ จะอยู่ได้ 6 ชม.
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่นำวัคซีนออกมาในอุณหภูมิปกติจนกระทั่งมีการเติมน้ำเกลือและผสมวัคซีน ต้องทำภายใน 2 ชม. เพื่อให้วัคซีนเกิดคุณภาพสูงสุด ก่อนนำไปฉีดให้กับประชาชนหรือบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า