วงเงิน "คุ้มครองเงินฝาก" 1 ล้านบาท เริ่ม 11 ส.ค. 64 นี้
ฝากเงินไม่เกิน1ล้านบาท ต่อ1รายผู้ฝาก ต่อสถาบันการเงิน "ผอ.สคฝ." เผยแนวโน้มปี64 ฝากเงินเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนมากเป็นรายย่อยมีเงินฝากไม่เกินล้าน ได้สิทธิ "คุ้มครองเงินฝาก"
นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (ผอ.สคฝ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่11สิงหาคม2564 นี้เป็นต้นไป ผู้ฝากเงินในสถาบันการเงินภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝาก จะได้รับความคุ้มครองเงินฝากตามกฎหมายคุ้มครองเงินฝาก ในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นวงเงินที่กำหนดตามกฎหมาย
ทั้งนี้ วงเงินคุ้มครองที่ 1 ล้านบาท มีผู้ฝากที่ได้รับความคุ้มครองเงินฝากเต็มจำนวน 82.07ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 98.03ของผู้ฝากทั้งระบบ ซึ่งถือเป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
สำหรับข้อมูลเงินฝาก ณ วันที่ 31พฤษภาคม 2564ผู้ฝากในระบบสถาบันการเงินภายใต้ความคุ้มครองของสถาบันมีจำนวนทั้งหมด 83.72ล้านราย เมื่อเปรียบเทียบกับสิ้นปีก่อน พบว่าจำนวนผู้ฝากเพิ่มขึ้น1,337,334ราย หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ1.62
โดยจำนวนผู้ฝากที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผู้ฝากรายย่อยซึ่งมีเงินฝากไม่เกิน 1 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ97ของจำนวนผู้ฝากที่เพิ่มขึ้น และเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครองมีจำนวนทั้งสิ้น 15.28ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น347,940ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ2.33จากสิ้นปีก่อน
สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) หรือDPAมีบทบาทสำคัญในการคุ้มครองเงินฝากแก่ผู้ฝากทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติที่ฝากเงินเป็นสกุลเงินบาทกับสถาบันการเงินของไทยภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝาก
ซึ่งประกอบด้วย ธนาคารพาณิชย์ไทย18 แห่ง สาขาธนาคารต่างประเทศ12แห่ง บริษัทเงินทุน2แห่ง และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์3แห่ง รวมทั้งสิ้น35แห่ง ซึ่งจะคุ้มครองทันทีในลักษณะ 1 รายชื่อผู้ฝากต่อ 1 สถาบันการเงิน
โดยคุ้มครองบัญชีเงินฝาก5ประเภท ได้แก่ 1.เงินฝากกระแสรายวัน 2.เงินฝากออมทรัพย์ 3.เงินฝากประจำ 4.บัตรเงินฝาก และ 5.ใบรับฝากเงิน โดยบัญชีเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครองต้องเป็นสกุลเงินบาทเท่านั้น
ทั้งนี้ หากสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝากถูกเพิกถอนใบอนุญาต ผู้ฝากจะได้รับเงินฝากคืนภายใน 30 วัน ตามวงเงินที่กฎหมายกำหนด
ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการคุ้มครองเงินฝากได้ที่www.dpa.or.th,ศูนย์บริการข้อมูลคุ้มครองเงินฝาก โทร 1158 หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจwww.facebook.com/dpathailand