ตำรวจไซเบอร์ รวบหนุ่มแสบ"หลอกขายวัคซีนทางเลือก" เหยื่อกว่า 50 คน สูญเงินกว่า 2 แสนบาท
ตำรวจไซเบอร์ รวบหนุ่มแสบเปิดเฟซบุ๊กโพสต์ข้อความ"หลอกขายวัคซีนทางเลือก" เหยื่อหลงเชื่อกว่า 50 คน โอนเงินให้สูญเงินกว่า 2 แสนบาท
4 ส.ค.2564 สืบเนื่องจาก ตำรวจสืบทราบว่ามีผู้แอบอ้างหลอกขายวัคซีนทางเลือก ผ่านทางเฟซบุ๊กทำให้มีผู้หลงเชื่อโอนเงินให้คนร้ายจำนวนมาก พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) จึงได้สั่งการให้ตำรวจ บก.สอท.1 และ บก.สอท.2 ชุดสืบสวน ติดตามจนทราบตัวผู้ต้องหาและจับกุมตัว นายฐาปกรณ์ แก้วศรี อายุ 20 ปี ได้พร้อมของกลางโทรศัพท์ มือถือ 1 เครื่อง เงินสด จำนวน 8,000 บาท โดยจับกุมได้ที่โรงแรมหอพักสบาย ต.เกาะสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
โดยผู้ต้องหา มีพฤติการณ์ เปิดบัญชีเฟซบุ๊ก 7 บัญชี ชื่อ "สิทธิพงษ์ ทองฮุย” , “กิตติพงษ์ บางประอินทร์”, “Thapakorn kaewsri”, “อัพ มาแพนดี้”, “ฐาปกรณ์ แก้วศรี”, “Yutthana Kawirai” เและ “แจ็ค กี้” ทำการโพสต์ข้อความหลวกลวงขายวัคซีนป้องกันโควิด-19 โมเดอร์น่า ,ซิโนฟาร์ม ในราคา 3,300 บาท ตามกลุ่มเฟซบุ๊กสาธารณะต่างๆ จำนวน 4 กลุ่ม เช่น “ลงทะเบียนวัคซีนทางเลือก ชิโนฟาร์ม” “มาฉีดวัคซีนกันเถอะ” “จองฉีดวัคซีนที่ไหนได้บ้าง? วัคซีนทางเลือกจองได้ที่ไหน?” “วัคซีนทางเลือกชิโนฟาร์ม ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์” โดยอ้างว่า มีสิทธิจากการจองซื้อวัคซีนทางเลือก กับทางโรงพยาบาลเอกชน และมีสิทธิเหลือ จึงนำมาจำหน่ายให้ผู้สนใจ ซึ่งพบว่าผู้ที่หลงเชื่อกว่า 50 ราย และบางราย ถูกหลอกให้โอนเงินมัดจำ บางรายจ่ายเงินเต็มจำนวน มูลค่ากว่า 2 แสนบาท
จากการสอบปากคำ นายฐาปกรณ์ ให้การยอมรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก จำนวน 7 บัญชี และทำการโพสต์ข้อความหลอกลวงขายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตามกลุ่มเฟซบุ๊กสาธารณะ ซึ่งตนเองไม่ได้มีวัคซีนดังกล่าวแต่อย่างใด โดยเงินที่ได้จากการหลอกลวง นำไปใช้เล่นเกมส์ออนไลน์ และใช้จ่ายส่วนตัว ซึ่งการกระทำดังกล่าว ได้เริ่มกระทำผิดในครั้งนี้มาเป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำข้อมูลทางการเงินมาขยายผลโดยละเอียด เนื่องจากผู้เสียหายบางรายอาจมองว่าเป็นเงินจำนวนน้อย จึงไม่ได้ติดตาม แต่หากมีจำนวนผู้เสียหายที่ถูกหลอกหลายราย เป็นการฉ้อโกงประชาชน ก็จะมีมูลค่าความเสียหายที่สูง ซึ่งจะใช้นำไปประกอบการดำเนินคดี
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่พบว่านายฐาปกรณ์ เพิ่งได้รับการพ้นโทษจำคุก ในข้อหา ฉ้อโกง หลวงลวงขายสินค้าออนไลน์ มาเมื่อเดือนกันยายน ปี 2563 ที่ผ่านมา โดย ศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 3 ปี รับสารภาพเหลือจำคุก 1 ปี 6
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ แจ้งข้อหานายฐาปกรณ์ "ฉ้อโกงประชาชน ป.อาญา ม.343” และ “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14(1)" พร้อมนำตัว ผู้ต้องหาและของกลาง ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ขอประชาสัมพันธ์ ไปยังพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังมิจฉาชีพ ที่แฝงตัวมาในโลกออนไลน์ โดยยึดหลัก “คิดก่อน เช็คก่อน” เพื่อตรวจสอบความถูกต้องและความน่าเชื่อถือ รวมทั้ง ขอให้รับฟังข้อมูลข่าวสารจากทางราชการและจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ โดยใช้ดุลยพินิจและวิจารณญาณในการรับฟัง ข้อมูลข่าวสารทางช่องทางต่างๆ หากพบเห็นเบาะแส การกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1441 ได้ในวัน เวลาราชการ และหมายเลขโทรศัพท์ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง