ผลชันสูตร หนุ่มวัย 21 สิ้นใจคา "รถเข็น" ออกแล้ว พบเกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลัน
ผลชันสูตร หนุ่มวัย 21 สิ้นใจคา "รถเข็น" ออกแล้ว พบเกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลัน
จากกรณีที่โลกโซเชียล ได้มีการแชร์ภาพและข้อความ ถึงเรื่องสะเทือนใจ หลังจากสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ถึงเรื่องราวของลูกชาย ซึ่งถูกพาตัวมาส่งรักษาอาการที่โรงพยาบาล เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีอาการปวดท้อง และเมื่อนำตัวมาถึง พยาบาลยังไม่ได้รักษาอาการให้ทันที จนทำให้ลูกชายต้องนั่งรออยู่บนรถเข็น นานหลายชั่วโมง กระทั่งลูกชายสิ้นใจอยู่บยนรถเข็นคันดังกล่าว ซึ่งคุณแม่ผู้ที่สูญเสียลูกชายได้โพสต์ข้อความดังนี้
“ถึง รพ.เมื่อคืน ตอนนี้รู้ว่าทำอะไรอะไรไม่ได้แค่อยากระบาย พาลูกไปถึง รพ.ประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง เรียกพยาบาลคนแรกบอกไม่ได้ทำหน้าที่ตรงนี้ จน 4 ทุ่มกว่าเรียกอีก บอกว่าน้องไม่ไหวตาลายหายใจไม่ออกนางบอกว่าให้รอ ถ้าไม่อยากไปที่อื่นจะรักษาที่นี่ต้องรอ เราเข็นลูกไปเข้าห้องน้ำ 3 รอบ ลูกยังลุกเข้าห้องน้ำ 5 ทุ่ม ลูกคอตกเรียกมันมาดู เอาเครื่องวัดความดันมาวัด แล้ววัดอะไรไม่ขึ้น หันมาถามเรา หลับรึเปล่า เพลียรึเปล่า เราถามทำไมวัดไม่ขึ้น
มันรีบเข็นลูกเข้าไปปั๊มหัวใจ สุดท้ายปั๊มไม่ทัน ลูกเราหมดลมหายใจไปต่อหน้า อยากถามเหมือนกัน ถ้าคนนั้นเป็นลูกเป็นหลานเป็นคนที่รักของพวกคุณ คุณจะรู้สึกยังไง ถ้าคุณสนใจสักนิด คงยังช่วยเหลือชีวิตเขาไว้ได้ พอลูกเราตาย พากันเดินออกมาดูคนไข้ที่นอนรอหน้าห้องฉุกเฉินกันเต็มเลย ถามเตียงนั้นเตียงนี้ นาทีชีวิตมันมีค่าสำหรับคนที่เขาใกล้ตาย ไม่มีใครอยากจะตาย ขอให้ลูกเราเป็นเคส ที่ขอให้คุณใส่ใจคนไข้บ้าง
เราเข้าใจว่าคนไข้เยอะแต่ถ้าเป็นหนักขอให้มาดูบ้างไม่ใช่ปฏิเสธ แล้วก็บอกให้รอ รอจนลมหายใจสุดท้าย รู้มั้ยมันทรมารใจแค่ไหน ใส่ใจบ้างค่ะ รูปสุดท้ายของชีวิตที่ไม่คิดว่าจะหมดลมหายใจ แม่ขอโทษนะ (สำหรับคนที่อยากรู้รพ.นะคะ รพ.นึงแถวxxxxxxค่ะ)
ทั้งนี้ ภายหลังโพสต์ดังกล่าว ได้ถูกแพร่สะพัดออกไป ทำให้ประชาชนทั่วไป ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้สื่อมวลชนทุกแขนง ยังได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ เกี่ยวความรับผิดชอบ และความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
ล่าสุดโรงพยาบาลที่ทำการรักษาอาการ และเป็นโรงพยาบาลที่ถูกกล่าวถึง ได้ออกมาให้เหตุผลถึงการเสียชีวิตของลูกชาย ผู้โพสต์รายนี้ โดยระบุว่า วันเกิดเหตุคนเยอะมาก ทั้งในห้องผู้ป่วย และห้องฉุกเฉิน ซึ่งจากการชันสูตรร่างของ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี (ผู้เสียชีวิต) ทราบว่า สาเหตุเกิดจากอาการหัวใจล้มเหลว โดย "ระบบไหลเวียนโลหิต และหายใจล้มเหลว"
ขณะเดียวกัน ทางด้านหน่วยงานต้นสังกัด ได้ออกมาระบุและให้ข้อมูลว่า ช่วงเวลาที่ผู้เสียชีวิตมาเข้ารับการรักษา ในแผนกฉุกเฉิน ได้มีผู้ป่วยจำนวนมาก มาเข้าคิวรออยู่ก่อนแล้ว โดยพยาบาลจะต้องทำการซักประวัติ และคัดกรองผู้ป่วย จำนวน 29 ราย ซึ่งผู้เสียชีวิตอยู่ในลำดับที่ 27 พร้อมกันนี้ยังมีผู้ป่วยวิกฤติ 18 ราย ซึ่งอีกสาเหตุสำคัญ ก็คือ บุคลากรทางการแพทย์มีไม่เพียงพอ