"แปลงสาธิตเกษตรทฤษฎีใหม่ "ศูนย์ห้วยทรายฯ รูปแบบมีกินมีขายได้ทั้งปี
"แปลงสาธิตเกษตรทฤษฎีใหม่" ศูนย์ห้วยทรายฯ รูปแบบมีกินมีขายได้ทั้งปี
"เกษตรทฤษฎีใหม่"เป็นหนึ่งในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
นาถบพิตร ที่พระราชทานให้ปวงชนชาวไทยนำไปปฏิบัติเพื่อยกระดับผลผลิตให้มีอาหารพอเพียงสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างมั่นคงบนพื้นฐานของความพอเพียงและความสามัคคีมีการแบ่งปัน สามารถดำรงชีพอยู่ได้โดยไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจ
หรือแม้แต่จากสภาวะที่ทั่วโลกกำลังประสบกันอยู่คือการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส (โควิด 19) เกษตรทฤษฎีใหม่มีหลักสำคัญคือการบริหารจัดการที่ดินและน้ำเพื่อการผลิตภาคการเกษตรในที่ดินขนาดเล็กให้เกิดประโยชน์สูงสุด
โดยแบ่งขั้นตอนการปฏิบัติออกเป็น 3 ขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 1 การผลิตแบบพอเพียงสามารถเลี้ยงตัวเองได้ ภายใต้พื้นฐานของการประหยัดและลดค่าใช้จ่ายด้วยการจัดสรรพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน ในอัตราส่วน 30:30:30:10
โดย 30% แรก คือการขุดสระน้ำและเลี้ยงปลา 30% ที่สองปลูกข้าว 30% ที่สามปลูกพืชสวน พืชไร่ และ10% ที่สี่เป็นที่อยู่อาศัย เลี้ยงสัตว์ โรงเรือนต่าง ๆ ซึ่งอัตราส่วนนี้สามารถลดหรือเพิ่มได้ตามความเหมาะสมของพื้นที่
ขั้นตอนที่ 2 การรวมกลุ่มในรูปแบบของกลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์เพื่อทำการผลิตและการตลาด การจัดการด้านความเป็นอยู่ สวัสดิการ การศึกษา สังคมและศาสนา
และขั้นตอนที่ 3 การสร้างเครือข่ายกลุ่มอาชีพ การติดต่อประสานงานเพื่อหาทุนหรือแหล่งเงินทุน เช่น ธนาคาร บริษัทห้างร้านเอกชนมาช่วยในการลงทุนและกระจายสินค้า ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิก
นับตั้งแต่ที่พระองค์ได้พระราชทานพระราชดำริการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ปวงชนชาวไทยทั่วทุกภูมิภาคต่างน้อมนำมาปฏิบัติใช้โดยมีศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้ง 6 แห่งทั่วภูมิภาคเป็นแหล่งสาธิต ศึกษาดูงาน ให้ข้อมูลพร้อมฝึกปฏิบัติให้แก่เกษตรกรที่สนใจอย่างต่อเนื่องตลอดมา
เช่นที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี ได้มีการจัดสรรพื้นที่จำนวน 5 ไร่ บริเวณริมถนนเพชรเกษมขาเข้ากรุงเทพมหานคร ด้านหน้าของศูนย์ศึกษาฯ จัดทำเป็นแปลงสาธิตเกษตรทฤษฎีใหม่เพื่อให้ผู้ที่สนใจเข้ามาดูงานศึกษาเรียนรู้ พร้อมกับจับจ่ายสินค้าที่เป็นผลผลิตจากโครงการฯ ได้ทุกวัน
แปลงสาธิตเกษตรทฤษฎีใหม่นี้ มีสภาพเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าตามแนวถนนเพชรเกษม มีการจัดแบ่งพื้นที่เพื่อการใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม มีการผลิตพืชหมุนเวียนต่อเนื่องแบบหลากหลาย ทุกตารางนิ้วก่อเกิดประโยชน์และสร้างรายได้แบบรายวัน รายเดือน และรายปี
นายโยธิน รัตคาม เจ้าหน้าที่งานขยายผลและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายฯ อดีตนักวิชาการการเกษตร สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 2 จังหวัดราชบุรี ( สสก.2 ) ประจำศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายฯ เล่าให้ฟังว่า เบื้องต้นมีการปรับขนาดพื้นที่ในแต่ละกิจกรรมตามความต้องการของการผลิต เป็นที่อยู่อาศัย โรงเก็บวัสดุ โรงคัดแยกพืชผัก 155.82 ตารางวา สระน้ำ และบ่อน้ำพัก ความจุขนาด 1,000 ลูกบาศก์เมตร สามารถนำน้ำมาเติมได้ และแปลงพืชไร่ พืชสวน เน้นการผลิตที่มีความหลากหลายแบบเกษตรผสมผสาน ปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่เดียวกัน
ปลูกผักบนดินแบบหมุนเวียนเพื่อลดปัญหาโรคแมลง ประกอบด้วย พริก มะเขือ ผักบุ้งจีน มะกรูด มะนาว โหระพา ปลูกในกระบะแบบยกสูง จำนวน 11 กระบะ ปลูกคะน้า กวางตุ้ง ผักกาดขาว ผักชี ขึ้นฉ่าย ปลูกมะเขือเทศในมุ้ง พื้นที่ 129.59 ตารางวา ปลูกพืชไร่หมุนเวียน
ประกอบด้วย อ้อยคั้นน้ำ ข้าวโพดฝักสด ถั่วลิสง 508.38 ตารางวา ปลูกไม้แบบผสมผสานสลับแถวเป็นพืชที่มีอายุในการให้ผลผลิตมากกว่า 3-5 ปี เช่น มะม่วง ส้มโอ ชมพู่ มะพร้าวน้ำหอม และพืชที่มีอายุให้ผลผลิตไม่เกิน 1 ปี เช่น ฝรั่ง มะละกอ กล้วยน้ำว้า เป็นต้น พื้นที่ว่างระหว่างแปลงปลูกดาวเรืองเพื่อตัดดอกจำหน่าย
สำหรับการเลี้ยงสัตว์ มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย การเลี้ยงไก่แบบปล่อย จำนวน 6 เล้า เล้าละ 100 ตัว รวมไก่ที่เลี้ยง 600 ตัว หมุนเวียนการปล่อยทุก 66 วัน และเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์ จำนวน 12 บ่อ บ่อละ 600 ตัว
หมุนเวียนการปล่อยทุก 12 วัน เพื่อให้สามารถจับจำหน่ายได้ทุกอาทิตย์ และพื้นที่นาข้าว จำนวน 43.54 ตารางวา ใช้ผ้าพลาสติกความหนา 2 มิลลิเมตร ปูรองพื้นเพื่อเก็บน้ำ ยกคันนาสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ใส่ดินในแปลงสูง 25 เซนติเมตร สามารถหมุนเวียนปลูกได้ตามอายุการปลูกข้าวตลอดทั้งปี ทำให้มีข้าวเพียงพอต่อการบริโภคในครอบครัว และยังมีเหลือไว้ขายอีกด้วย
“มีการประยุกต์ใช้เพื่อประโยชน์ของการเจริญเติบโตของพืชทุกชนิด ภายใต้แนวทางการประหยัดน้ำในแปลงสาธิตมีการให้น้ำพืชแบบประหยัดถึง 2 รูปแบบ ประกอบด้วย การให้น้ำแบบฉีดฝอยด้วยสปริงเกอร์ และแบบหยดและฉีดฝอยใต้ต้นด้วยมินิสปริงเกอร์ ควบคู่กับการนำนวัตกรรมด้านการเกษตรมาใช้เพื่อลดแรงงาน
เช่น ระบบเปิดปิดประตูเล้าไก่อัตโนมัติ การให้น้ำพืชด้วยเครื่องตั้งเวลา เปิดปิดอัตโนมัติอีกด้วย ที่สำคัญแนวทางการจัดการพื้นที่ทำการผลิตด้วยเกษตรทฤษฎีใหม่เช่นนี้ จะทำให้เกษตรกรมีกินมีใช้เพียงพอตลอดทั้งปีในทุกสถานการณ์ และยังมีผลผลิตให้ได้ขายมีรายได้ทั้งรายวัน รายเดือน และรายปี อีกด้วย” นายโยธิน รัตคาม กล่าว
เกษตรกรหรือผู้สนใจต้องการศึกษาดูงานหรือเรียนรู้แนวทางการทำการเกษตรทฤษฎีใหม่แบบประยุกต์นี้ ตลอดถึงผลผลิตและผลิตภัณฑ์ที่สดใหม่เพื่อสุขภาพที่ดีด้วยปราศจากสารเคมี สามารถแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมพร้อมจับจ่ายได้ทุกวันที่แปลงสาธิตแห่งนี้ เบอร์โทรติดต่อ 032-593-253