"กก. ข้อมูลข่าวสาร" ชี้ "ป.ป.ช."ต้องเปิดบัญชีทรัพย์สิน "ประยุทธ์-วิษณุ" เพื่อความโปร่งใส
คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ชี้ "ป.ป.ช."ต้องเปิดบัญชีทรัพย์สิน 'ประยุทธ์-วิษณุ' เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบความโปร่งใสในการบริหารราชการแผ่นดินตลอดจนเป็นการป้องกันปัญหาการทุจริต
สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ (สขร.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
โดยมีประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งหมด 17 รายการ หนึ่งในนั้นคือเรื่อง “บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน” ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฝ่ายบริหารระดับสูง 2 คน กล่าวคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ดี ไม่นานมานี้ ป.ป.ช.ได้ปฏิเสธการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน พร้อมให้เหตุผลว่าไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายให้อำนาจคณะกรรมการ ป.ป.ช.เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ที่ยื่นไว้เป็นหลักฐาน ตามมาตรา 105 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561
ทั้งนี้ คณะกรรมการวินิจฉัยฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า แม้บัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะยื่นไว้เป็นหลักฐานก็ตาม
แต่จุดมุ่งหมายสำคัญที่กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบความโปร่งใสในการบริหารราชการแผ่นดินตามหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ ตลอดจนเป็นการป้องกันปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบและการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม
ข้อมูลข่าวสารดังกล่าว จึงเป็นข้อมูลข่าวสารสาธารณะที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. และสำนักงาน ป.ป.ช. มีหน้าที่โดยตรงในการเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบตามมาตรา 243 (3) ประกอบมาตรา 59 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
ประกอบกับประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง หลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน พ.ศ.2561 ข้อ 7 กำหนดว่า ภายหลังจากพ้นกำหนดระยะเวลาการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน หากมีการร้องขอเป็นหนังสือเพื่อขอตรวจดูบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินให้สำนักงาน ป.ป.ช.ที่ครอบครองดูแลเอกสารดังกล่าวจัดให้ผู้ร้องขอเข้าตรวจดูสำเนาบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ได้แต่มิให้คัดถ่ายสำเนาเอกสาร
ดังนั้น ข้อมูลข่าวสารดังกล่าวเปิดเผยโดยให้ผู้อุทธรณ์เข้าตรวจดูได้ตามคำร้องขอ