"สมาคมกีฬาจักรยานฯ" ชูศูนย์ฝึกภูมิภาคต่อยอดผลิตน่องเหล็กป้อนวงการ
"สมาคมกีฬาจักรยานฯ" ใช้ศูนย์ฝึกจักรภูมิภาค สานต่อในการผลิตนักกีฬาจักรยานป้อนเข้าสู่วงการ เริ่มตั้งแต่ระดับยุวชนไปจนถึงเยาวชน เล็งส่งโค้ชทีมชาติเข้าไปให้ความรู้เพื่อยกระดับ ออกสตาร์ทก.ย.นี้
พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า เป้าหมายของ"สมาคมกีฬาจักรยานฯ" ต่อการสร้างนักกีฬาจักรยานรุ่นใหม่ ใช้นโยบายการกระจายภารกิจไปยังศูนย์ฝึกกีฬาจักรยานในเครือของสมาคมฯ ซึ่งปัจจุบันมีศูนย์ฝึกจักรยานภูมิภาคทั้งหมด 5 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์ฝึกฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ กองบิน 46 จังหวัดพิษณุโลก, ศูนย์ฝึกฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย จังหวัดลพบุรี, ศูนย์ฝึก Prime19 จังหวัดพะเยา, ศูนย์ฝึกฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ จังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์ฝึกฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง
นายกสองล้อไฟเขียวส่ง "จาย อังค์สุธาสาวิทย์" ลุยศึกปั่นนานาชาติ
ส.จักรยานมึนสหรัฐเบรกน่องเหล็กทีมชาติไทยเข้าปท.อ้างโควิด
บีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติร่วม"ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์"-"ฟ้า"โอดบาดเจ็บกระทบฟอร์ม
ศูนย์ฝึกดังกล่าว "สมาคมกีฬาจักรยานฯ" ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ซีโน-แปซิฟิค เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด อย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 10 ปี และประสบความสำเร็จ ต่อการสร้างนักกีฬาจักรยานรุ่นใหม่ขึ้นมาจำนวนมาก ซึ่งแผนยุทธศาสตร์การพัฒนากีฬาจักรยานของศูนย์ฝึกฯ ต่าง ๆ จะเริ่มเข้าสู่เฟสที่ 2 คือการต่อยอดนักกีฬาจักรยานรุ่นใหม่ ให้มีศักยภาพสูงขึ้น
สามารถก้าวขึ้นมาทดแทนนักกีฬาทีมชาติรุ่นพี่ได้อย่างไม่ขาดตอนต่อไปในอนาคต ขณะเดียวกันในปีนี้ "สมาคมกีฬาจักรยานฯ" ก็จะจัดรูปแบบแคมป์เทรนนิ่งร่วมกัน สำหรับนักปั่นรุ่นยุวชนและเยาวชนที่มีศักยภาพของแต่ละศูนย์ฝึก จะถูกคัดเลือกเข้ามาฝึกซ้อมร่วมกัน ทั้งนักกีฬาและผู้ฝึกสอน โดยมีผู้ฝึกสอนชั้นสูงของไทย ไม่ว่าจะเป็น วิสุทธิ์ กสิยะพัท และ ร.ต.อ. อดิศักดิ์ วรรณศรี ในประเภทถนนและลู่, เรืออากาศเอก สุภัทร ศรีไสว และ ร้อยตำรวจตรีหญิง กฤติกา ศิลาพัฒน์ ในประเภทเสือภูเขา, อัถร ไชยมาโย ในประเภทบีเอ็มเอ็กซ์
รวมไปถึงบุคลากรกีฬาด้านอื่น ๆ ทั้งช่างซ่อมจักรยาน, นักวิทยาศาสตร์การกีฬา, นักกายภาพ เข้าไปสังเกตการณ์และให้คำแนะนำการฝึกซ้อมที่ถูกต้องเหมาะสมให้แก่นักกีฬาแต่ละคนในระหว่างที่เข้าแคมป์ เพื่อให้มีพัฒนาการเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยจะเริ่มเดินหน้าโครงการดังกล่าวในเดือนกันยายน หรือต้นเดือนพฤศจิกายน
สำหรับโครงการแคมป์เทรนนิ่งของศูนย์ฝึกจักรยานทั่วประเทศดังกล่าว ในอนาคตกรณีที่อยู่ในห้วงเวลาเดียวกันกับการเก็บตัวฝึกซ้อมนักกีฬาทีมชาติไทย ก็อาจจะใช้สถานที่เก็บตัวฝึกซ้อมทีมชาติไทยเป็นสถานที่จัดโครงการแคมป์เทรนนิ่ง เนื่องจากนักปั่นอนาคตของชาติและผู้ฝึกสอนจากศูนย์ฝึกฯ จะได้เข้าฝึกซ้อมร่วมกันระหว่างศูนย์ อันเป็นโอกาสดีที่จะได้สัมผัสกับการฝึกซ้อม และการปฏิบัติของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ในระดับทีมชาติ ที่มีความเข้มข้นของการฝึกซ้อมสูงขึ้นไปกว่าการฝึกซ้อมและปฏิบัติในระดับภูมิภาค
“เป้าหมายหลักของโครงการ นอกเหนือจากเรื่องของการสร้างนักกีฬาระดับทีมชาติรุ่นใหม่แล้ว ก็ยังจะสอดคล้องกับแนวทางการคัดเลือกนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันรายการใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นรายการของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ หรือ ยูซีไอ หลายต่อหลายรายการที่ต้องอาศัยคะแนนสะสมเพื่อควอลิฟายเข้าแข่งขันชิงแชมป์โลกประเภทต่าง ๆ รวมไปถึงการคัดเลือกโควต้าโอลิมปิกเกมส์ในแต่ละประเภท ที่ใช้ระบบคะแนนสะสมเป็นหลัก การที่มีนักกีฬาไทยสามารถเข้าร่วมการแข่งขันนานาชาติมากขึ้น จะทำให้โอกาสในการควอลิฟายโอลิมปิกเปิดกว้างมากขึ้น รวมถึงโอกาสในการประสบความสำเร็จการแข่งขันก็จะมีสูงขึ้น” พล.อ.เดชา กล่าว