"ไปรษณีย์ไทย" สู้โควิด ลดค่าส่ง EMS สูงสุด 20% ปรับระบบเก็บเงินปลายทางได้ ผ่าน Wallet@post | คมชัดลึก

นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) เปิดเผยถึงการให้บริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ในประเทศ ที่อยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งภาคธุรกิจ และภาครัฐ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจค้าขาย ต้องปรับตัวมาขายสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น ส่วนผู้บริโภคที่ต้องพักอาศัยอยู่ที่บ้าน ก็หันมาสั่งของผ่านช่องทางออนไลน์มากกว่าเดิม เพื่อลดความเสี่ยงในการออกนอกบ้าน ไปรษณีย์ไทย จึงได้ปรับลดอัตราค่าบริการ EMS ในประเทศ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ใช้บริการ ที่มีปริมาณการส่งสิ่งของที่มีน้ำหนักมากในขณะนี้

 

 

 

โดยอัตราค่าบริการที่ปรับลดลงตั้งแต่น้ำหนักเกิน 2 กิโลกรัมขึ้นไป จนถึง 20 กิโลกรัม ซึ่งในแต่ละพิกัดน้ำหนักปรับลดสูงสุด 20% โดยเป็นการปรับลดอัตราค่าบริการครั้งใหญ่ ตั้งแต่มีการเปิดให้บริการ EMS มา

นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาฟีเจอร์ของตัวบริการ ให้มีความรวดเร็ว และผู้ใช้บริการใช้งานได้อย่างคล่องตัวขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การใช้ระบบเทคโนโลยีแบบ Real Time ด้วยการแจ้งเตือนผู้รับ ก่อนการนำจ่าย และการ Pick Up รับฝากถึงที่อยู่ได้ไวขึ้น ผ่านช่องทาง Line @Thailandpost

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

หางานเช็กที่นี่ "EEC" เปิดรับสมัครงานกว่า 8,000 อัตรา ผ่านช่องทางออนไลน์

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เตรียมหยุดให้บุคคลทั่วไปจอง-ฉีด"ซิโนฟาร์ม" ก.ย.นี้

 

นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดมาตรฐานการจัดส่งในปลายทาง กทม. ถึงภายในวันเดียว หรือไม่เกินวันรุ่งขึ้น และพื้นที่ต่างจังหวัด ภายใน 1-3 วัน เพิ่มโอกาสในการขาย ด้วยการเรียกเก็บเงินปลายทาง (COD) โดยสามารถเลือกการรับเงิน ผ่านระบบกระเป๋าเงินไปรษณีย์ (Wallet@post) หรือโอนเข้าบัญชีธนาคารได้โดยตรง ซึ่งจะมีระบบการแจ้งเตือนสถานะสิ่งของที่อยู่ระหว่างดำเนินการผ่านระบบ Wallet@post หรือ SMS ด้วย

สำหรับช่องทางในการเลือกรับสิ่งของก็ได้หลากหลายเช่นกัน หากไม่อยู่บ้าน หรือไม่สะดวกรับของที่บ้าน เมื่อมีการฝากส่งสิ่งของ สามารถไปรอรับได้ที่ ตู้ iBox หรือ Box 24 ที่ตั้งอยู่ในจุดที่มีการเดินทางได้ง่าย และกระจายอยู่ครอบคลุมในย่านใจกลางเมือง

นอกจากนี้ ยังปรับระยะเวลาในการสอบสวนภายใน 5 วันทำการ หากสิ่งของได้รับความเสียหาย/สูญหายจะได้รับอัตราการชดใช้ทันทีไม่เกิน 2,000 บาทต่อชิ้น