"ฝ่ายค้าน" ยื่นซักฟอก"นายกฯ- 5 รมต." แก้" วัคซีน-โควิด-เศรษฐกิจ" ล้มเหลว
"ฝ่ายค้าน" ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ"นายกฯ- 5 รมต." ปมบริหารวัคซีน-แก้ไขสถานการณ์โควิด-เศรษฐกิจ ล้มเหลว เมินแตะ "บิ๊กป้อม-ธรรมนัส"
ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ พร้อมด้วย หัวหน้าพรรคและตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน อาทิ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ,นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน , เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง
รวมทั้งนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานยุทธศาตร์พรรคเพื่อชาติ , หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย นายนิคม บุญวิเศษ และ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เข้ายื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร
โดยนายสมพงษ์ เปิดเผยว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ร่วมกันพิจารณา เห็นถึงความบกพร่องของรัฐบาลทั้งการบริหารวัคซีน แก้ไขปัญหาโควิด-19 ไปจนถึงการแก้ไขสถานการณ์เศรษฐกิจที่ล้มเหลว จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล พร้อมขอให้ประธานสภา บรรจุเป็นวาระด่วนเพื่อพิจารณาในการประชุมสภาต่อไป
สำหรับการอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลครั้งนี้มีทั้งสิ้น 6 คน ประกอบด้วย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณาสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ถามถึงเหตุผลที่ไม่มีรายชื่อพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกมนตรี นายสมพงษ์ ระบุว่า ที่ประชุมฝ่ายค้านก็มีการคุยเรื่องนี้ แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ได้ข้อสรุปว่าจะตั้งเป้าปัญหาโควิด-19 และเศรษฐกิจ เป็นหลัก ดังนั้นการจะอภิปรายใครก็ตาม จะต้องตรวจสอบว่า จะสามารถชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบว่างานของรัฐมนตรีดังกล่าวเป็นอย่างไรได้หรือไม่
และการทำงานของฝ่ายค้านต้องทำงานเป็นคณะ ซึ่งก็มีการประชุมกันมาหลายครั้งก่อนที่จะได้ข้อสรุปออกมา ซึ่งได้เน้นไปยังบุคคลที่รับผิดชอบเรื่องนั้นๆเป็นหลัก โดยครั้งนี้เชื่อว่า ข้อมูลที่จะอภิปรายนั้น มีความมั่นใจว่าหลักฐานครบถ้วน ที่จะสามารถยื่นเอาผิดต่อได้ในภายหลังจากนี้
แต่การที่จะเอาชนะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้นั้น ต้องฝากไปยัง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ที่เมื่อรับฟังข้อมูล แล้วมีความคิดความอ่าน ก็ให้คิดถึงประชาชนเป็นหลัก เพราะจะส่งผลไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างแน่นอน
ถามต่อถึงเหตุผลที่ไม่มีชื่อรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร้อยเอกธรรมนัส พรมเผ่า แม้มีรายงานว่าพรรคก้าวไกลได้เสนอชื่อเข้าที่ประชุมด้วย โดยนายพิธา ตอบว่ากระบวนการเลือกรัฐมนตรีก็เหมือนกัน แต่ละพรรคจะมีรายชื่อรัฐมนตรีที่ไม่ไว้วางใจเป็นของตัวเอง
แต่อย่างไรก็ตามฝ่ายค้านก็ต้องประชุมร่วมกัน ก่อนจะพิจารณารายชื่อที่จะยื่นญัตติออกมาโดยโฟกัสไปที่รัฐมนตรีทั้ง 6 คนที่ได้กล่าวไปแล้วเท่านั้น
นายพิธา ยังระบุ ถึงเหตุผลในการเลือกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงนี้ เป็นเพราะตั้งใจใช้กลไกสภาแก้ไขวิกฤตลดความขัดแย้ง ซึ่งครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน ที่เด่นชัดคือความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมยืนยันฝ่ายค้านร่วมมือกันทำงานอย่างเหนียวแน่น เพราะทุกพรรคเอาประชาชนเป็นตัวตั้ง ทุกความเห็นต่างย่อมเกิดขึ้นได้ตลอด
ด้านนายชวน กล่าวว่าเมื่อมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว เจ้าหน้าที่จะนำไปตัวสอบระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ไม่เกิน 7 วัน ก่อนที่จะแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบเพื่อหารือกับคณะรัฐมนตรีว่าจะอภิปรายในช่วงใดต่อไป
ทั้งนี้หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ยังกล่าวเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รีบลาออกจากตำแหน่งโดยหากยังฝืนอยู่ ตนมองว่าอาจมีเหตุการไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้หลังจากนี้ พร้อมระบุว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อน เพราะสถานการณ์ในประเทศขณะนี้อยู่ในขั้นวิกฤต
นายมงคลกิตติ์ ยังระบุถึงพรรคร่วมรัฐบาล ว่าหากการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ยังยกมือโหวตผ่านให้พลเอกประยุทธ์อีก ก็อยากให้ทุกพรรคร่วมรัฐบาลไปปิดพรรคได้เลย เพราะหากถึงวันเลือกตั้ง จะไม่มีประชาชนเลือกอีกเลย