"ปรเมษฐ์"ขอบคุณ"7ก.ต."ที่ให้ความเป็นธรรมแม้ไม่ได้ไปต่อ ยันเดินหน้าใช้สิทธิสู้ต่อเพื่อความถูกต้อง เเนะรื้อกติกาใหม่
ภายหลังการประชุมคณะกรรมการตุลาการ(กต.) เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมาไม่อนุมัติ "ปรเมษฐ์ " เป็นผู้พิพากษาอาวุโส 1 ต.ค. โดยให้พ้นจากราชการทันทีนั้น จากการตรวจสอบพบเบื้องหลังการลงมติอย่างน่าสนใจ
ทั้งนี้ในการประชุมกต.เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ก่อนการลงมตินางเมทินี ชโลทร ประธานศาลฎีกาได้ออกจากที่ประชุมเนื่องจากก่อนหน้านี้เคยถูกนายปรเมษฐ์ โตวิวัฒน์ อธิบดีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ปัจจุบันเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค 1 ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริต และ ประพฤติมิชอบกลาง
จากนั้น การประชุมคณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) โดยมี นางวาสนา หงส์เจริญ รองประธานศาลฎีกา ดำเนินการเป็นประธานที่ประชุมแทนชั่วคราวเกี่ยวกับวาระการพิจารณาว่านายปรเมษฐ์จะได้ไปดำรงตำเเหน่งผู้พิพากษาอาวุโสหรือไม่
โดย ผลการลงมติครั้งแรก ก.ต.มีมติ 7 ต่อ 7 เสียง ทำให้ประธานในที่ประชุมต้องลงมติชี้ขาดว่า ไม่เห็นชอบ 8 ต่อ 7 ให้นายปรเมษฐ์ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโสนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ปรเมษฐ์" เตรียม ยื่นอุทธรณ์คำสั่ง ฟ้อง "ประธานศาลฎีกา"
ก.ต. ไม่อนุมัติ "ปรเมษฐ์ " เป็นผู้พิพากษาอาวุโส 1 ต.ค. พ้นจากราชการทันที
จับตา ประชุมกต. ปรเมษฐ์ หวังขอ"คืนความเป็นธรรม"
นายปรเมษฐ์ เปิดเผยว่า "ขอขอบคุณ ก.ต.7 ท่านเป็นอย่างสูงที่ให้ความเป็นธรรม ส่วนก.ต.อีก 7 ท่านที่มีส่วนในการพิจารณาแต่งตั้งดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโสนั้น ต้องพิจารณาตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การแต่งตั้งและการดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโส ฉบับที่ 4 พ.ศ.2560 มาตรา 6/1 มาตรา8/1 และมาตรา 9
เพราะการได้รับความเสียหายเช่นนี้ ยากที่จะเยียวยาในภายหลัง โดยจะพิจารณาใช้สิทธิ์ตามกฎหมายและสิทธิทางศาลต่อไป
เมื่อเข้าหลักเกณฑ์ตามกฎหมายดังกล่าวแล้วต้องแต่งตั้ง ให้ ข้าราชการตุลาการผู้นั้นเข้าดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโส ในกรณีที่ใช้สิทธิทางศาลฟ้องร้องดำเนินคดี
เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 25 และมาตรา 4 คือศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สิทธิเสรีภาพได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย เเละปวงชนชาวไทยได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญอย่างเสมอภาคกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง