ก.อ.แต่งตั้ง"อัยการ"บิ๊กล็อต ระดับ รอง อสส.- รองอธิบดีฯ 917 ราย
ก.อ.ประชุมแต่งตั้ง"อัยการ"ล็อตใหญ่ ระดับ รอง อสส. - รองอธิบดีฯ 917 ราย “ชาติพงษ์” มือปราบคดีทุจริต รอง อสส.เบอร์ 7 ขยับขึ้นรอง อสส.เบอร์1 “อิทธิพร” คุม อธ.คดีอาญา “โกศลวัฒน์” กลับเมืองกรุง นั่ง รอง อธ.คดีเเขวง “ประยุทธ” พุ่งขึ้นรองอธ.คดีพิเศษ
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เป็นประธานการประชุมก.อ. ครั้งที่ 8/2564โดยมีวาระสำคัญแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการตั้งแต่ระดับรองอัยการสูงสุด จำนวน 6 ราย, ผู้ตรวจการอัยการ 9 ราย, อธิบดีอัยการ 75 ราย, รองอธิบดีอัยการ 104 ราย
อัยการพิเศษฝ่าย 152 ราย, ข้าราชการอัยการชั้น 6 จำนวน 98 ราย, ข้าราชการอัยการชั้น 5 จำนวน 109 ราย, ข้าราชการอัยการชั้น 4 จำนวน 117 ราย, ข้าราชการอัยการชั้น 3 จำนวน 120 ราย, อัยการอาวุโส 21 ราย และอัยการอาวุโส (ตั้งใหม่) 106 ราย จำนวน11 บัญชี รวม 917 ราย ซึ่งมีการพิจารณาเสร็จในช่วงบ่าย
โดยมีอัยการชั้นผู้ใหญ่ที่ได้นับการแต่งตั้งโยกย้ายที่น่าสนใจดังนี้
นายชาติพงษ์ จีระพันธุ รองอัยการสูงสุดอาวุโสลำดับที่ 7 เป็นรองอัยการสูงสุดลำดับที่ 1
นายชาติพงษ์ขึ้นชื่อในฝีมือเรื่องปราบการทุจริต ฯ มีประสบการณ์มาก เคยเป็นรองอธิบดีอัยการคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะทำงานคุมคดีสำคัญ ของสำนักงานคดีพิเศษหลายคดี
เช่น คดีบริษัท ฟิลิป มอร์ริส นำเข้าบุหรี่โดยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร ซึ่งขณะนี้มีกรณีพิพาท ระหว่างประเทศไทยกับประเทศฟิลิปปินส์ เกี่ยวกับองค์การการค้าโลก หรือดับเบิลยูทีโอ
คดีทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นซึ่งเกี่ยวพันถึงคดีทุจริตฟอกเงินเครือข่ายวัดธรรมกาย คดีทุจริตธนาคารกรุงไทย ฯ ปล่อยกู้ กลุ่มบริษัทกฤษดามหานครโดยทุจริตซึ่งมีอดีตนายกรัฐมนตรี เเละนักการเมือง นักธุรกิจ นายธนาคาร ตกเป็นจำเลย
เเละยังมีคดีความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน รวมถึงคดีทุจริต การฟอกเงินในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านโดยก่อนขึ้นรอง อสส.ได้เข้ามาคุมคดีเศรษฐกิจที่มีความซับซ้อนถือเป็นอัยการมากฝีมือ เชี่ยวประสบการณ์ ขึ้นชื่อเรื่องเป็นคนเที่ยงตรง ซึ่งการเป็นรอง อสส.อันดับ1 ทำให้ได้เป็น ก.อ.โดยอัตโนมัติ
นายบัณฑูร ทองตัน อธิบดีอัยการสำนักงานคดีแรงงานภาค 8 อดีตอัยการมือว่าความคดีทวงคืนหาดเลพัง มูลค่านับหมื่นล้านคืนจากกลุ่มนายทุนเป็นอธิบดีอัยการภาค8
นายสุวิช ชูตระกูล อธิบดีอัยการปกครองเพชรบุรี ซึ่งเป็นผู้ได้รับเลือกจากตั้งให้เป็น ก.อ. ประเภท ข้าราชการอัยการชั้น 5 ขึ้นไปด้วยคะแนนสูงสุด เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมาเป็นอธิบดีอัยการภาค7
นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อธิบดีอัยการ สำนักงานการยุติการดำเนินคดีแพ่งและอนุญาโตตุลาการ มีผลงานในการพัฒนาปรับระบบการทำงานเพิ่มคุณภาพการดำเนินคดีอนุญาโตตุลาการอำนวยความสะดวกในงานคดีต่าง ๆ ซึ่งในระดับอธิบดีถือว่า นายไพรัชมีคิวอาวุโสลำดับต้นๆ เตรียมจะขึ้นรองอัยการสูงสุดในปีต่อไป
อีกทั้งสมัยนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นอสส. ก็เคยเป็นเลขานุการมาแล้ว ได้เป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลเเขวง ซึ่งมีขอบเขตอำนาจพิจารณาสั่งคดีเเขวงทั้งหมดในพื้นที่กรุงเทพฯ
นายศักดา ช่วงรังษี อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปกครองจ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นสำนักงานสำคัญในจังหวัดใหญ่ภาคใต้เนื่องจากจ.ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวมีข้อพิพาทกับนายทุนคดีใหญ่เกี่ยวกับโรงเเรมบุกรุกป่าสงวน ซึ่งสำนักงานดังกล่าวจะมีบทบาทในการพิทักษ์ที่ของรัฐเป็นพวกที่ดินผืนป่าเเละชายทะเล จากนายทุน
โดยนายศักดาปัจจุบันเป็นเลขาธิการสำนักอบรมศึกษาเเห่งเนติบัณฑิตยสภาหรือครูใหญ่เนฯ รวมถึงยังได้รับการเลือกตั้งเป็น ก.อ. เป็นศิษย์เก่ารร.สวนกุหลาบวิทยาลัย จบปริญญาโทด้านกฎหมายจาก มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเเละ ปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยดีคิ่น รุ่น28 เป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาตลิ่งชัน
นายอิทธิพร เเก้วทิพย์ อธิบดีอัยการสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา
ซึ่งนายอิทธิพรถือเป็นลูกหม้อของสำนักงานอัยการคดีอาญามาอย่างยาวนานและเป็นมือแก้ต่างคดีอาญาให้กับข้าราชการทั่วประเทศที่ถูกฟ้องเพราะปฏิบัติราชการตามหน้าที่ จึงมีความเหมาะสม เเละประสบการณ์การทำงานที่จะคุมสำนักงานคดีอาญาซึ่งเเบ่งๆเป็น12กองงาน
มีคดีใหญ่สำคัญต้องรับผิดชอบเข้าในพื้นที่สำคัญจาก สถานีตำรวจในพื้นที่ตอนเหนือเป็นพื้นที่หลัก รวมถึงรับคดีจากกองปราบปรามเข้ามาพิจารณาสั่งคดีนอกจากนี้นายอิทธิพรมีคิวที่จะขึ้นถึงอัยการสูงสุดในอนาคตด้วย
นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) อดีตโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดขยับขึ้นเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานก.อ.ซึ่งถือเป็นงานบริหารงานบุคคลของข้าราชการอัยการทั้งหมด มีบทบาทสำคัญการดูเสนอบัญชี แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการทั่วประเทศ
สำหรับนายธรัมพ์ ที่ได้ขยับขึ้นในสำนักงานเดิมหมายถึงได้รับความเชื่อใจจากผู้บริหารในการจัดบัญชีเเต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการด้วยความเป็นธรรมเเละเหมาะสม นอกจากนี้ยังเคยเป็นโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดมาก่อนนี้ด้วย
นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา เเละรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ขยับขึ้นเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาพระโขนง
นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ซึ่งเคยเป็นเจ้าของสำนวนคดี กปปส.ที่ศาลอาญาพิพากษาลงโทษเเกนนำหลายคนขึ้นเป็น อธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร
นอกจากนี้ยังมีการแต่งตั้งโยกย้ายระดับอธิบดีอัยการสำคัญคือ น.ส.นารี ตันฑเสถียร อธิบดีอัยการสำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย และนายพรชัย ชลวาณิชกุล อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ
ซึ่งทั้ง2คนเป็น ก.อ.ยังอยู่ในตำเเหน่งเดิม จึงไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีเเต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ ทั้งนี้น.ส.นารี มีคิวที่จะขึ้นเป็น อสส.หญิงคนเเรกของประเทศ ต่อจากนายสิงห์ชัย ทนินซ้อน ว่าที่ อสส.คนต่อไป
สำหรับตำแหน่งระดับรองอธิบดีอัยการที่น่าสนใจ นายโกศลวัฒน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 9 เป็นรองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลเเขวง
สำหรับนายโกศลวัฒน์ เคยดำรงตำเเหน่งผู้อำนวยการสำนักกิจการและโครงการในพระดำริพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา สำนักงานอัยการสูงสุด บทบาทที่ผ่านมาของนายโกศลวัฒน์
ถือเป็นรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการทำงานช่วยเหลือสังคมและผู้ด้อยโอกาสมาโดยตลอด โดยการสนับสนุนผู้บำเพ็ญประโยชน์ด้วยการมอบรางวัล “คนดีที่เรายกย่อง” เคยออกหน้าประสานงานด้านกฎหมายช่วยเหลือน้องปาล์ม เด็กหญิงที่โดนรถของรพ.แห่งหนึ่งชนจนพิการตลอดชีวิต
ซึ่งภายหลังชนะคดีได้รับค่าเสียหายตามคำพิพากษาของศาล เมื่อตอนโดนย้ายไปเป็นรองอธิบดีภาค9 ก็ได้รับเเต่งตั้งให้เป็นโฆษกอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 เเถลงผลงานการดำเนินคดีทุจริตฯในภาค พร้อมให้ความรู้กฎหมายประชาชนเเละข้าราชการเกี่ยวกับคดีทุจริตฯเพื่อเป็นเเนวทางในการปฏิบัติไม่ให้ต้องคดี ซึ่งได้รับการตอบรับชื่นชม
นายประยุทธ เพชรคุณ อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นรองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ
สำหรับนายประยุทธ มีบทบาทเป็นที่รู้จักในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยกาาสูงสุด โดยนั่งตำเเหน่งในทีมโฆษกมายาวนานถึง 3 สมัยรวม 6 ปีรับหน้าที่เเถลงข่าวคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนเเละคดีใหญ่สะเทือนขวัญ
สำคัญหลายคดี จากที่เข้ามาดูคดีพิเศษ เเละเติบโตเป็นระดับรองอธิบดีที่สำนักงานนี้เเสดงว่าได้รับไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้บริหาร เพราะสำนักงานคดีพิเศษเป็นสำนักงานที่รับพิจารณาสำนวนคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ และคดีป้องกันและปราบ ปรามการฟอกเงิน หรือปปง.ซึ่งรวมถึงคดีการเมืองเเละการชุมนุมของม็อบการเมืองต่างๆ
สำนักงานดังกล่าวจึงมีบทบาทสำคัญ นายประยุทธ จบหลักสูตร วปอ. รุ่นที่ 59 จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เคยดำรงตำแหน่งอัยการจังหวัดหลายจังหวัด เช่น สมุทรปราการ สระบุรี อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงอุบลราชธานี แล้วขยับเป็นอัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการอยู่ 4 ปี ก่อนจะเลื่อนเป็นอัยการพิเศษฝ่ายสำนักยุทธศาสตร์และงบประมาณ รับผิดชอบการบริหารจัดการด้านอาคารและที่ดินของสำนักงานอัยการสูงสุด
นอกจากนี้ยังได้รับแต่งตั้งจาก รมว.ยุติธรรมให้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ของกระทรวงยุติธรรม และเป็นประธานพัฒนากฎหมายและอนุกรรมการพัฒนากฎหมายของหน่วยราชการอีกหลายคณะ
นายธีรวัฒน์ พุฒิบูรณวัฒน์ เลขานุการอัยการสูงสุด เป็นรองอธิบดีเเรงงานภาค2 สำหรับนายธีรวัฒน์ เป็นพนักงานอัยการรุ่น100ปีและเป็นนักศึกษา วปอ. รุ่นที่ 59 รุ่นเดียวกันกับนายประยุทธ เพชรคุณ
ผลงานโดดเด่นเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนจนเกิดสำนักงานเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุดและเป็นผู้มีส่วนสำคัญในคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์และงบประมาณจนสำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับจัดสรรงบประมาณบรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบายสำนักงานอัยการสูงสุดอย่างยอดเยี่ยมถึงสองปีซ้อน
ในส่วนระดับฝ่ายที่น่าสนใจ นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 2 ยังอยู่ตำเเหน่งเดิมถือเป็นอัยการมือสอบสวน ฝีมือดี เคยได้รางวัลอัยการดีเด่นจบหลักสูตรเอฟบีไอ จากสหรัฐ ฯ รุ่นเดียวกับ ‘บิ๊กดำ’ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ โดยมีผลงานสมัยอยู่สอบสวนลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายเเดนลุยคดีปล้นปืน
ล่าสุดได้รับคำสั่งให้ร่วมสอบสวนคดี ฟอกเงิน สหกรณ์รถไฟ หลังดีเอสไอร้องขอ ซึ่งนายวัชรินทร์มีคิวขึ้นระดับ รอง อธ.ปี65
ระดับอัยการอาวุโสที่น่าสนใจ อาทิ เรือโทสมนึก เสียงก้อง อัยการอาวุโสสำนักงานคดีอาญา 1 ซึ่งเคยเป็นอดีตโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นอัยการอาวุโสสำนักงานคดีพิเศษ 1 นางอินทรานี สุมาวงศ์ อัยการอาวุโสสำนักงานคดีภาษีอากร เป็นอัยการอาวุโสสำนักงานต่างประเทศ
ส่วนบัญชีอาวุโสที่แต่งตั้งใหม่ที่น่าสนใจได้เเก่ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด(อสส.) คนปัจจุบันที่นั่งในตำเเหน่ง 2 ปีเป็นอัยการอาวุโสสำนักงานอัยการสูงสุด
นายชัชชม อรรฆภิญญ์ รอง อสส. เป็นอัยการอาวุโสสำนักงานวิชาการ
โดยหลังจากนี้จะมีการนำเสนอเพื่อโปรดเกล้าฯเเต่งตั้งให้มีผลวันที่ 1 ต.ค.นี้เป็นต้นไป