"สหรัฐฯ" โควิดพุ่ง อียูถอดจากรายชื่อประเทศเดินทางปลอดภัยเล็งบังคับกักตัว
อียู แถลงการณ์ แนะนำให้ประเทศสมาชิกบังคับใช้ข้อจำกัดสำหรับผู้ที่เดินทางมาจาก "สหรัฐฯ" อีกครั้ง เนื่องจากยอดผู้ป่วย โควิด-19 พุ่งสูง
คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป อียู (EU) เผยแพร่แถลงการณ์เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 แนะนำให้ประเทศสมาชิกบังคับใช้ข้อจำกัดสำหรับผู้ที่เดินทางมาจาก "สหรัฐฯ" อีกครั้ง เนื่องจากยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) ในสหรัฐฯ พุ่งสูง
ก่อนหน้านี้ ในเดือนมิถุนายน คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป เคยเพิ่มชื่อสหรัฐฯ ในรายชื่อประเทศที่ปลอดภัยต่อการเดินทางรับช่วงวันหยุดฤดูร้อน
องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ระหว่างช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวม 977,947 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 7,394 ราย นับเป็นประเทศที่เผชิญการแพร่ระบาดหนักที่สุดของโลก
นอกจาก "สหรัฐฯ" แล้ว คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป ยังปลดอีกหลายประเทศออกจากรายชื่อประเทศและภูมิภาคที่ปลอดภัยสำหรับการเดินทางที่ไม่ได้มีกิจจำเป็น ได้แก่ อิสราเอล เลบานอน มอนเตเนโกร นอร์ธมาซิโดเนีย และ คอซอวอ แม้ว่าคำแนะนำนี้ไม่มีผลผูกมัด แต่ผู้ที่เดินทางมาจากกลุ่มประเทศและภูมิภาคข้างต้นจะต้องถูกตรวจสอบหรือเผชิญข้อจำกัดเข้มงวดยิ่งขึ้นเมื่อเดินทางมายังสหภาพยุโรป อาทิ การบังคับกักตัว
“ข้อแนะนำนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการที่ประเทศสมาชิกจะยกเลิกข้อจำกัดชั่วคราวที่มีต่อผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และต้องการเดินทางมายังสหภาพยุโรปโดยไม่มีกิจจำเป็น” คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป ระบุ
เกณฑ์การพิจารณายกเลิกข้อจำกัดด้านการเดินทางกับประเทศภายนอกสหภาพยุโรปนั้น ครอบคลุมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาด มาตรการรับมือโรคโควิด-19 โดยรวม และความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูลที่มี นอกจากนี้ ยังพิจารณาข้อแลกเปลี่ยนระหว่างกันในแต่ละกรณีด้วย
อนึ่ง ล่าสุด รายชื่อกลุ่มประเทศที่ปลอดภัยต่อการเดินทาง ได้แก่ แอลเบเนีย อาร์เมเนีย ออสเตรเลีย อาเซอร์ไบจาน บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา บรูไน แคนาดา ญี่ปุ่น จอร์แดน นิวซีแลนด์ กาตาร์ มอลโดวา ซาอุดีอาระเบีย เซอร์เบีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ยูเครน และ จีน (ขึ้นอยู่กับข้อแลกเปลี่ยนที่ทำระหว่างกัน)
(แฟ้มภาพซินหัว : ผู้เดินทางสวมหน้ากากอนามัยอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส ในเมืองลอสแอนเจลิสของสหรัฐฯ วันที่ 18 ก.ค. 2021)