ข่าว

เตือนเกษตรกรเลี้ยงกุ้งโรคระบาดทำเสียหาย

เตือนเกษตรกรเลี้ยงกุ้งโรคระบาดทำเสียหาย

11 ก.พ. 2553

ชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสุราษฎร์ฯ เตือนเกษตรกรระวังโรคตัวแดงดวงขาว ชี้เสียหายแล้ว 20-30% พร้อมเตือนรัฐเข้มงวดนำเข้ากุ้ง หวั่นโรคไอเอ็มเอ็นวี ระบาดซ้ำ หลังพบกำลังระบาดหนักในจีน

นายเอกพจน์ ยอดพินิจ ประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จากการที่เกษตรกรเสี่ยงลงกุ้งในช่วงปลายปี 2551 และเก็บผลผลิตช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 52 ซึ่งประสบผลสำเร็จกุ้งมีอัตรารอดสูง ขณะที่ช่วงนั้นราคาอยู่ในระดับสูงส่งผลให้เกษตรกรเสี่ยงลงกุ้งเพิ่มในช่วงปลายปี 52 แต่ปีนี้อัตราการรอดของกุ้งมีน้อย โดยส่วนใหญ่เป็นโรคตัวแดงดวงขาว ซึ่งเป็นโรคประจำถิ่นที่จะระบาดในฤดูหนาวและเปลี่ยนเข้าช่วงแล้ง ดังนั้นขณะนี้ผลผลิตกุ้งทางภาคใต้และภาคตะวันออก จึงเสียหายเป็นจำนวนมาก

 “ปกติในช่วงปลายปีหรือหน้าหนาว เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งจะลงกุ้งในปริมาณน้อยอยู่แล้ว เพราะเสี่ยงกับโรคดังกล่าว แต่ในปีที่ผ่านมาราคากุ้งจูงใจมากและมีผู้เลี้ยงบางส่วนประสบผลสำเร็จ ทำให้เกษตรกรยอมเสี่ยงในปีนี้มากขึ้น แต่เนื่องจากอากาศแปรปรวน ทำให้อัตรารอดของกุ้งต่ำมีความเสียหายประมาณ 20-30%” นายเอกพจน์กล่าว

 นอกจากนี้รัฐบาลควรเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น ในการนำเข้ากุ้งจากต่างประเทศ ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อไอเอ็มเอ็นวี ที่เคยระบาดในกุ้งเพาะเลี้ยงที่อินโดนีเซียในปีที่ผ่านมา ปัจจุบันกำลังระบาดอย่างหนักที่จีน และยังไม่มีแนวทางรักษาในขณะนี้ จากสาเหตุดังกล่าวคาดว่า จะทำให้ผลผลิตกุ้งออกสู่ตลาดโลกลดลง ส่งผลให้ราคากุ้งของประเทศผู้ผลิตอื่นๆ สูงกว่ากุ้งไทยที่เฉลี่ย 20-50 บาทต่อกิโลกรัม จากราคากุ้งไทยขนาด 70 ตัวต่อกิโลกรัมในขณะนี้ อยู่ที่กิโลกรัมละ 110 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2552 อยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาท ซึ่งคาดว่าแนวโน้มราคาจะขยับตัวสูงขึ้นได้อีกประมาณ 20%

 อย่างไรก็ตาม คาดว่าประมาณการผลผลิตกุ้งของประเทศไทยในปี 2553 อาจต้องมีการประเมินใหม่ เพราะมีแนวโน้มต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้เดิม 5.9 แสนตัว