ข่าว

สวนหมัด"อภิปรายไม่ไว้วางใจ"อย่าเอาโซเชียลมาสู้ ยัน120วัน"เปิดประเทศ"

สวนหมัด"อภิปรายไม่ไว้วางใจ"อย่าเอาโซเชียลมาสู้ ยัน120วัน"เปิดประเทศ"

01 ก.ย. 2564

นายกฯสวนกลับ "อภิปรายไม่ไว้วางใจ" รัฐบาลก่อนสร้างปัญหาอะไรไว้ต้องตามล้างตามเช็ด ยัน120วัน"เปิดประเทศ" อย่าเอาโซเชียลมาสู้ ต้องเอาข้อเท็จจริงมาสู้

เมื่อวันที่ 1 ก.ย.64  "การอภิปรายไม่ไว้วางใจ" 6 รัฐมนตรี ดำเนินการเข้าสู่วันที่สอง ซึ่งการอภิปรายในวันนี้ มีส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นส.ส.หน้าใหม่สมัยแรกลุกขึ้นอภิปรายโจมตีการบริหารงานของพล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะที่เป็นไปด้วยความบกพร่องล้มเหลว

 

ขณะที่นายกฯตอบโต้กลับประเด็นการบริหารวัคซีนผิดพลาด อย่าเอาโซเชียลมาสู้ ต้องสู้ด้วยข้อเท็จจริงและยืนยัน 120 วัน"เปิดประเทศ"

 

ผู้นำไร้กึ๋น ไม่ทันเทคโนโลยี พาชาติตกเป็นเมืองขึ้น

 

การอภิปรายในช่วงแรก พรรคฝ่ายค้านจัดให้ ส.ส.สมัยแรกจากพรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายหลายราย  อาทิ นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย  นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย และ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ 

สวนหมัด\"อภิปรายไม่ไว้วางใจ\"อย่าเอาโซเชียลมาสู้ ยัน120วัน\"เปิดประเทศ\"

 

ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายกล่าวหา การบริหารงานทางด้านเทคโนโลยีการสื่อสารที่ไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาลชุดนี้  โดยเฉพาะ ตัวผู้นำประเทศไม่มีความรู้ ไม่มีความสามารถก้าวไม่ทันโลกยุคใหม่  ต่างชาติไม่เชื่อมั่นเจรจาการค้าทำให้ตกเป็นเมืองขึ้น  รวมถึงการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและโควิด-19 มีการจัดทำแอพพลิเคชั่นรองรับมาตรการจ่ายเงินเยียวยาที่ไม่ทันสมัย รวมถึงระบบการจองฉีดวัคซีน ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

 

นายกฤษฎา อภิปรายตอนหนึ่งว่า การบริหารราชการที่ผิดพลาดเป็นการซ้ำเติมภาคธุรกิจ เหมือนเหยียบหัวพวกเขาให้จมน้ำ ไม่สามารถอยู่รอดได้ในวิกฤตนี้ รัฐบาลไม่เข้าใจปัญหา บริหารจัดการไปคนละทิศทาง ปล่อยให้ประชาชนดิ้นรนหาทางออกเอง หาวัคซีนเอง หาทางกลับบ้าน หาโรงพยาบาลเอง วันที่เรามีผู้ติดเชื้อน้อยเหตุใดท่านไม่สั่งวัคซีน ไม่ดำเนินการมาตรการเด็ดขาด แต่เมื่อเกิดปัญหาแล้ว ท่านปล่อยให้แรงงานทั้งไทย และต่างด้าว อยู่ตามมีตามเกิด

 

วันนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังสูง แต่ท่านปลดล็อก ตอนนี้เป็นเวลาที่ถูกที่ควรหรือไม่ หรือคลายล็อกเพื่อต้องการลดความตึงเครียดการอภิปราย หากเป็นเช่นนั้น ท่านกำลังเอาวิกฤตมาเป็นโล่กำบังทางการเมือง ซึ่งผิดวิสัยชายชาติทหาร และผู้นำประเทศ

 

นายกฯโต้เข้ามาแก้ปัญหาของรัฐบาลที่แล้วทั้งนั้น 

 

สวนหมัด\"อภิปรายไม่ไว้วางใจ\"อย่าเอาโซเชียลมาสู้ ยัน120วัน\"เปิดประเทศ\"

 

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ลุกขึ้นชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ ว่าท่านไม่เคยมองในแง่ดีเลย อยากให้เปรียบเทียบกับรัฐบาลที่ผ่านมา ต้องขอความเป็นธรรมรัฐบาลด้วย ที่มีการกล่าวหาว่าเป็นผู้นำไร้วิสัยทัศน์ไม่เคยมองโลกภายนอก ท่านคิดอยู่ฝ่ายเดียวตนไม่ว่าอะไร สุดแท้ว่าประชาชนเชื่อมั่นหรือเปล่าเพราะท่านใช้คำว่าประชาชนทั้งประเทศ  

 

สร้างความเชื่อมั่น 120 วัน เปิดประเทศ 

 

นายกฯ กล่าวว่า เรื่อง 120 วันเปิดประเทศ ไม่ต้องการให้ทุกคนขาดความเชื่อมั่นตรงนี้ วันนี้ได้เริ่มไปแล้ว ที่ภูเก็ต    แซนด์บ็อกซ์ และจะพิจารณาในพื้นที่ต่างๆหลังจากนี้ วันนี้เรากำลังเดินหน้าสู่ประเทศวิถีใหม่ มีการเตรียมความพร้อมทุกด้าน


กรณีจีดีพี ท่านฉวยโอกาสช่วงโควิด ไม่มีประเทศไหน จีดีพีสูงจนเปรียบเทียบได้ว่าเราไม่มีอะไรดีเลย อย่าลืมว่ารัฐบาลดูแลประชาชนไปเท่าไหร่  ต้องติดตามว่าเราช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยให้ประชาชนเป็นจำนวนเท่าไหร่ ที่ฝ่ายค้านบอกว่า ไม่เกิดประโยชน์ ลองถามประชาชนทั้งประเทศ  หลายท่านบอกกู้ซอฟท์โลนไม่ได้ รัฐบาลมีคณะกรรมการตรงนี้พิจารณา  ทั้งหนี้กยศ. ถ้าพูดมาว่า เสนอแนวทางแก้ปัญหาได้เก่งจริงน่าจะเสนอตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว 

 

"เรื่องค่าโง่ทางด่วน มันเกิดขึ้นจากรัฐบาลที่แล้วหลายอย่างแก้ได้ แต่กลับไม่แก้ต้องมาแก้ไขในรัฐบาลนี้" นายกฯกล่าวตอบโต้   

 

"ผมไม่อยากให้พูดแบบหาเสียง ที่นี่ไม่ใช่เวทีหาเสียง แต่เป็นเวทีแก้ปัญหา อยากให้พูดในการแก้ไขปัญหาหรือการกล่าว หาว่า มีคนมาพบผม ไม่มีแขกมาบ้านผมสิบกว่าปีมาแล้ว นอกจากทำงานไปกลับทำเนียบรัฐบาล และตรวจเยี่ยม นิสัยผมเป็นอย่างนั้น แต่ผมฟังจากที่ท่านพูด พูดผ่านสื่อนสพ. ทางสื่อโซเชียล อเนจอนาถใจ ที่พูดไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง เป็นการบิดเบือน" นายกฯ กล่าว  

 

ไทยไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้น

 

นายกฯ ยังตอบโต้ข้อกล่าวหาการดำเนินนโยบายด้านต่างประเทศจนตกเป็นเมืองขึ้น ว่า เราดำเนินนโยบายอย่างสมดุล ที่กล่าวหาประเทศไทยตกเป็นเมืองขึ้น เป็นเมืองขึ้นใคร การพูดอย่างนี้เสียเกียรติภูมิประเทศไทย  ในเวทีต่างประเทศยืนยันว่าไม่น้อยหน้าไปกว่าประเทศอื่นในเรื่องของความเป็นศักดิ์ศรีประเทศ ซึ่งปีนี้เรากำลังจะเป็นประธานการประชุมเอเปคฯด้วย 

 

"ไม่มีใครอยากให้เป็นเมืองขึ้นและสำคัญประเทศไทย ไม่ใช่เมืองขึ้นเพราะมีระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว นี่คือหลักการ แต่หลายคนพยายามบั่นทอนความเข้มแข็งตรงนี้ เถียงผมมาสิครับว่าไม่มี " นายกฯ สอนเชิงฝ่ายค้าน 

 

ย้ำอีก 120 วันเปิดประเทศ

 

นายกฯกล่าวย้ำอีกว่า ในเรื่องการเปิดประเทศหากไม่สามารถเปิดพร้อมกันทั่วประเทศได้ เราก็จะพิจารณาเปิดเฉพาะพื้นที่ เพราะไม่ว่าจะเปิดเท่าไหร่ก็ตาม แต่ถ้าการแพร่ระบาดยังมีอยู่จำนวนนักท่องเที่ยวก็ต้องน้อยลงเป็นธรรมดา

 

แต่ประเด็นสำคัญคือ เป้าหมายที่เขาจะมา ถ้าสามารถดำเนินการได้ทั้งประเทศต้นทางและปลายทาง พยายามเจรจาแต่ละประเทศโดยตลอด วันนี้ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ถือว่ามีแนวโน้มนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น หลังจากนี้จะทยอยเปิดให้มากขึ้นขึ้นอยู่กับสถานโควิด-19ซึ่งเราต้องช่วยกัน

 

ตามล้างตามเช็ดปัญหารัฐบาลก่อน


"ส่วนเรื่องการชุมนุมวันนี้ เป็นการไม่สมควรเลยที่มีส.ส.ไปอยู่เบื้องหลังยืนยันว่า ผมก็กลัวกฎหมาย กลัวการทุจริต ไม่ต้องมาขู่เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ผมเคารพตลอด อย่าบอกว่าผมไม่ฟังเสียงประชาชน ผมฟังทุกอย่างแต่ต้องหาวิธีการที่เหมาะสม ไม่ใช่ขออะไรมาแล้วฟังทุกอย่าง" นายกฯ กล่าว 


นายกฯ กล่าวว่า ขอให้เข้าใจว่าการแก้ปัญหาวันนี้ รัฐบาลต้องแก้ปัญหาเดิมๆ ที่หมักหมมมานาน วันนี้เมื่อเจอสถานการณ์โควิด-19 ก็ต้องแก้ไปด้วยและต้องมองไปถึงอนาคต

 

"เรื่องการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว ท่านเคยช่วยไหมครับ สถานประกอบการอยู่ในพื้นที่ผิดกฎหมาย ทำไมรัฐบาลอื่นไม่ทำ อย่าเอาข้อมูลดรามา โซเชียลมาแสดง ท่านต้องแสดงสังเคราะห์ให้ดี ขอให้ประชาชนทางบ้านที่ติดตามรับชมรับฟังอยู่  วันนี้ รัฐบาลต้องแก้ปัญหาเดิมๆและวันนี้เจอโควิดก็ต้องแก้โควิดด้วย และต้องเตรียมตัวเรื่องอนาคตด้วย จะบอกไม่มีอนาคต แต่ก่อนมีหรือไม่" นายกฯ กล่าว 

 

"อะไรที่รัฐบาลทำไปมุ่งอนาคต ท่านทำลายไปหมด ท่านจะได้อะไร เวลาผ่านไปวันๆ ขัดแย้งกันตลอดเวลา  ต่างประเทศก็มองเราอยู่" นายกฯ กล่าว 

 

อย่าเอาโซเชียลมาสู้กับผม


นายกฯ ย้ำถึงการแก้ปัญหากระจายวัคซีนอีกครั้งว่า จะช้าเร็วมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ปีนี้ยืนยันเราได้วัคซีนครบ ท่านต้องมองโลกมองอย่างเข้าใจ  ไม่อยากให้วัคซีนเป็นสินค้าขัดแย้งทางการเมือง

 

"วันนี้ไม่มีวัคซีนตัวไหนชัดเจน แต่เราเอาเข้ามาหมด ทุกอย่างทำเป็นขั้นตอนไม่ผลีผลาม มีให้ฉีดก็ด้อยค่าให้ฉีดใหม่ก็หวาดระแวง ผมฟังทุกวัน ทางโซเชียลจริงหรือเปล่า  อย่าเอาโซเชียลมาสู่กับผม เอาข้อเท็จจริงมาสู้กับผม" นายกฯ กล่าวทิ้งท้าย