ลูกจ้าง TST "วอนเห็นใจ" ต่อสัญญาโครงการพัฒนาตำบลแบบบูรณาการ
ลูกจ้างโครงการพัฒนาตำบลแบบบูรณาการ หรือ Tambon Smart Team วอนรัฐบาลเห็นใจ ต่อสัญญาโครงการออกไปอีก 1 ปี เหตุผลเพราะเชื้อโควิด-19 ยังมีจำนวนมาก หางานลำบาก
ลูกจ้างเหมาบริการตามโครงการพัฒนาตำบลแบบบูรณาการ หรือ Tambon Smart Team (TST) จำนวน 14,510 คนทั่วประเทศ แบ่งเป็นตำบลละ 2 คน ซึ่งเป็นลูกจ้างโครงการจ้างงานของกระทรวงมหาดไทย โดยได้รับการจัดสรรงบประมาณภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 รวมระยะการจ้างงาน 12 เดือน (1 ต.ค. 63 – 30 ก.ย. 64) ส่วนอัตราค่าตอบแทนจ้างเหมา 15,000 บาท/เดือน
โครงการดังกล่าวกำลังจะสิ้นสุดสัญญาจ้างในวันที่ 30 กันยายน 2564 ซึ่งจะทำให้ลูกจ้างจำนวน 14,510 คนทั่วประเทศตกงาน
เบื้องต้นกรมการปกครอง กระทวงมหาดไทยได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564 เพื่อขอต่ออายุโครงการพัฒนาตำบลแบบบูรณาการ หรือ Tambon Smart Team (TST) สำหรับปีงบประมาณ 2565
โดยให้เหตุผลว่ากระทรวงมหาดไทยพิจารณาเห็นถึงความสำคัญของการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม จากการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาตำบลแบบบูรณาการ ( Tambon Smart Team ) อันนำไปสู่ผลผลิตและผลลัพธ์ (Output and Outcome) ที่ตอบสนองต่อวัตถุประสงค์หลัก ตามบัญชีท้ายพระราชกำหนดฯ อย่างเป็นประจักษ์และเป็นรูปธรรมในระดับพื้นที่จึงขอพิจารณาต่ออายุโครงการพัฒนาตำบลแบบบูรณาการ (Tambon Smart Team)
ร.ต.ท. ภพชนก ชลานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้เคยให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Googmorning Asean ทางวิทยุคลื่นความถี่ 100.5 อสมท. ว่าโครงการได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ 3 หลักการคือ
- ส่งเสริมกระตุ้นเกิดการจ้างงานทุกตำบลให้มีรายได้ในระดับพื้นที่ตำบล
- มีภารกิจจัดเก็บฐานข้อมูล เพื่อวางแผนพัฒนาพื้นที่ในทุกระดับ และหากดำเนินการเสร็จหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนสามารถนำไปประมวลผลและใช้งานได้อย่างแน่นอน
- เมื่อประมวลผลเสร็จสิ้นสามารถเกิดการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา เสริมสร้างความเข้มแข็งในระดับตำบล โดยการดำเนินงานของลูกจ้าง Tambon Smart Team จำนวน 14,510 คน ได้ลงพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในระดับตำบลใกล้แล้วเสร็จในทุกมิติทั้ง 12 ด้าน ซึ่งถือว่าดำเนินการจนเห็นผล และหากโครงการดำเนินการแล้วเสร็จก็จะมีการนำข้อมูลมาประมวลผลและสร้างแพลตฟอร์มให้หลายภาคส่วนสามารถเข้ามาดูข้อมูลว่าแต่ละพื้นที่ แต่ละตำบลมีพืชเศรษฐกิจอะไรบ้าง มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจยังไงบ้าง ซึ่งมีการประมวลผลทุกเดือน
สำหรับ 12 ด้าน ที่ลูกจ้าง Tambon Smart Team จัดเก็บข้อมูล แยกเป็น
- ด้านโครงสร้างพื้นฐานและกายภาพ
- ด้านการปกครองและความมั่นคง
- ด้านสาธารณภัย
- ด้านสาธารณสุข
- ด้านที่ดิน
- ด้านการผังเมือง
- ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- ด้านเศรษฐกิจ
- ด้านเกษตรกรรม
- ด้านอุตสาหกรรม
- ด้านการบริการและการท่องเที่ยว
- ด้านสังคมและการศึกษา
ทั้งนี้ รองอธิบดีกรมการปกครอง ได้ตอบคำถามถึงกรณีหากหมดสิ้นโครงการจะทำการต่อสัญญาหรือไม่ โดยระบุว่า ได้ทำเรื่องให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยลงนามถึงเลขาธิการสภาพัฒนฯ ในการต่อสัญญาโครงการ ซึ่งขณะนี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลที่จะเล็งเห็นความสามารถของเด็กในโครงการ Tambon Smart Team มีประโยชน์อย่างไรบ้าง เนื่องจากถือเป็นผู้เชี่ยวชาญในระดับพื้นที่ในการค้นคว้าหาข้อมูล และหากมีการอนุมัติต่อโครงการก็จะถือว่าได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย คือ รัฐได้ข้อมูลระดับพื้นที่ที่เป็นจริง และเกิดการจ้างงานเด็กจบใหม่หรือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด
ด้านลูกจ้าง Tambon Smart Team ได้มีการตั้งกลุ่มออกมาเรียกร้องในการอยากให้มีการต่อสัญญา เพราะที่ผ่านมาพวกเขาก็ทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งลงพื้นที่เก็บข้อมูล 12 ด้าน จัดเก็บพิกัด ตามแผนของกระทรวงมหาดไทย และทำงานตามคำสั่งของที่ทำการปกครองอำเภอ ได้ทุกมิติ รวมทั้งเข้าด่านตรวจคัดกรองโควิด จัดห้องประชุม ทำความสะอาดหอประชุม รวมทั้งเขียนโปรเจ็กแบงค์ในการของบประมาณด้วย
โดยหนึ่งในลูกจ้าง Tambon Smart Team ระบุว่า ที่พวกเขาออกมาเรียกร้องให้มีการต่อสัญญาโครงการ เหตุผลเพราะว่าช่วงนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีจำนวนมาก และขยายเป็นวงกว้าง การจะให้ไปหางานใหม่ก็คงเป็นเรื่องยากและลำบาก เนื่องจากบางแห่งเป็นพื้นที่สีแดง ถ้าเป็นโรงงาน หรือบริษัท บางบริษัทก็ปิดตัวลง จ้างคนออก เพราะเศรษฐกิจไม่ดี อุ้มค่าใช้จ่ายไม่ไหว หากมีการต่อสัญญาโครงการจริงก็จะทำให้ไม่ต้องเดินทางจากบ้านไปไกล ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ เศรษฐกิจหมุนเวียนในระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ ดังนั้นจึงอยากขอความอนุเคราะห์ไปถึงรัฐบาลให้เล็งเห็นประโยชน์ที่เราได้ปฏิบัติงานมาตลอดเกือบครบ 1 ปี ซึ่งวันที่ 30 กันยายน 2564 ก็สิ้นสุดสัญญาจ้างแล้ว หากไม่มีการต่อสัญญาก็จะมีคนจำนวน 14,510 คน กลายเป็นผู้ตกงาน
"ไม่ใช่ว่าพวกเราเห็นแก่ตัว จริงอยู่ว่ามีคนตกงานจำนวนมาก แต่ตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่พวกเราทำงานในพื้นที่ ช่วยงานที่ทำการปกครองอำเภอ ถือว่าแบ่งเบาภาระเจ้าหน้าที่ไม่มากก็น้อย การลงพื้นที่จัดเก็บข้อมูล จัดเก็บพิกัด หากทางกรมการปกครองดำเนินการประมวลผลแล้วเสร็จ ทางภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ภาคการท่องเที่ยวสามารถนำไปใช้งานได้จริง เป็นข้อมูลในการจัดทำเรื่องเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวได้ ตามที่ท่าน รองอธิบดีกรมการปกครอง ได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้ ยิ่งปัจจุบันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีการกระจายเป็นวงกว้าง และมีจำนวนมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา"