ทำไม ลักลอบขน "ยาบ้า" ต้องซุกผักกะหล่ำ
โทรสั่งยาเสพติดข้ามชาติ ขบวนการค้าขน "ยาบ้า" ลงชายแดนภาคใต้ ก่อนส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อย่างมาเลเซีย
ตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษหรือ 191 ได้จับกุม นาย บุญมี ผิวอ่อนดี อายุ 59 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 2ล้านเม็ด, , เงินสด 11,000 บาท , พระเครื่อง 11 องค์ , บัตรกดเงินสด ATM จำนวน 4 ใบ สมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม รถยนต์เก๋ง 2 คัน รถยนต์กระบะ 2 คัน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ได้บนถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันตก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ล้อมจับระทึก" กลาง ถ.กาญจนาภิเษก ยึดยาบ้า 2 ล้านเม็ด ซุกรถกระบะขนกะหล่ำปลี
- แฉคลิปลับ "ผู้กำกับโจ้" พันตำรวจโท ส่งต่อ พันตำรวจเอก
ทำไมต้องรถกระบะขนผักกะหล่ำ คมชัดลึก ได้สอบถาม พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี รอง ผบก.สปพ. (191) ทราบว่า จากการสืบสวนเบื้องต้น ได้จับตาดูติดตามพฤติกรรมของขบวนการยาเสพติดกลุ่มนี้ ซึ่งถือว่า เป็นรายใหญ่มาก ในจ.สุพรรณบุรี มานานหลายเดือนแล้ว ขบวนการกลุ่มนี้เป็นคนในครอบครัวซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในจ.สุพรรณบุรี รวมกลุ่มกันขนยาเสพติด โดยแบ่งหน้าที่กัน ตั้งแต่ขั้นตอนการติดต่อผู้สั่งการจากประเทศเพื่อนบ้าน , การขนส่ง , การเงิน เครือข่ายกลุ่มนี้จะทำทีเป็นพ่อค้าคนกลางขายส่งผักกะหล่ำ โดยจะซื้อผักกะหล่ำ ที่ตลาดไท ครั้งละ 1 คันรถกระบะ โดยทุกครั้งที่ ลักลอบขนยาบ้า จะลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่ไป ชายแดนภาคใต้ อ.สุไหงโก-ลก ,อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อส่งออกประเทศมาเลเซีย
เครือข่ายกลุ่มนี้จะใช้รถกระบะในการลำเลียงยาเสพติดโดยปะปนมากับสินค้าทางการเกษตร อย่างผักกะหล่ำ เพื่อซุกซ่อนอำพรางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะสะดวกในการปกปิดซ่อนเร้น และมีรถนำเพื่อดูต้นทางอีก 1 คัน เวลาเจอด่านตรวจจะได้ส่งสัญญาณเตือน รถกระบะคันที่ใช้ขนส่งยาบ้า เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมมานานหลายเดือน จนทราบรถที่แน่ชัดจึงเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางดังกล่าว ตอนนี้กำลังตามจับกุมและออกหมายจับ คนขับรถนำเพื่อดูต้นทาง และสืบทราบกลุ่มผู้ว่าจ้างแล้วว่าเป็นใคร ตอนนี้ขอรวบรวมหลักฐานแน่ชัดเพื่อออกหมายจับกุมต่อไป