ศาลรับฟ้อง "บก.ลายจุด" จัด "คาร์ม็อบ" ไล่นายกฯฝ่าพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
อัยการฯ ยื่นฟ้อง "บก.ลายจุด" ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จัด "คาร์ม็อบ" แห่ไล่นายกฯ ศาลให้ประกันโดยไม่ต้องใช้ทรัพย์ และนัดสอบคำให้การต่อไป
3 ก.ย. 2564 ที่ศาลแขวงดุสิต ถ.นครไชยศรี พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด อายุ 53 ปี หรือ บก.ลายจุด เป็นจำเลย ในความผิด ฝ่าฝืนข้อกำหนด ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์พ.ศ.2548, นำรถเข้าขบวนแห่ต่างๆ ไปตามทางโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานจราจร ในชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ และระหว่างสอบสวนจำเลยไม่ถูกควบคุมตัว
- อ่านข่าวที่น่าสนใจ
- "คาร์ม็อบ"โดนแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีไม่ต่ำกว่า 22 คดี
- "บก.ลายจุด" ดอดสน.ดอนเมืองรับทราบข้อหาร่วมคาร์ม็อบ-ย้ำกิจกรรมมีต่อแน่
- ม็อบ 29 สิงหา ผู้นำ ‘คาร์ม็อบ’ วอน ทะลุแก๊ส ยึดสันติวิธี
คำฟ้องระบุว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค.64 จำเลยได้ชุมนุมมั่วสุม หรือจัดทำกิจกรรมคาร์ม็อบ ให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมและทำกิจกรรมดังกล่าว รวม 100 คน มีการตั้งขบวนรถจักรยานยนต์ประมาณ 100 คัน อันเป็นการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนเกินกว่า 20 คน ที่บริเวณหน้าร้านอาหารแม็คโดนัลด์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม.ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดในลักษณะกีดขวางการจราจรและทางสาธารณะ เพื่อแสดงสัญลักษณ์ทางการเมืองขับไล่นายกรัฐมนตรี
จากนั้นจำเลยได้นำรถยนต์ เข้าขบวนแห่โดยมีการขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ติดตามกันไปเป็นขบวนในลักษณะกีดขวางการจราจร บีบแตรรถส่งเสียงดัง เคลื่อนที่ไปตามถนนราชดำเนินกลางมุ่งหน้าสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า กลับรถแยกอรุณอัมรินทร์ มุ่งเข้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แล้วเคลื่อนขนวนมุ่งหน้าไปร่วมชุมนุมและทำกิจกรรมที่แยกยมราช- ถนนพระรามที่ 6-ถนนพหลโยวิน -ถนนรัชดาภิเษก-ถนนสุขมวิทและเสร็จสิ้นการทำกิจกรรมที่สี่แยกราชประสงค์ ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดโดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหนัาเจ้าพนักงานจราจร
การชุมนุมและจัดทำกิจกรรมดังกล่าว ไม่มีการจัดให้มีมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อโรคไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด -19) กับผู้เข้าร่วมชุมนุมและทำกิจกรรมตามที่ทางราชการกำหนด โดยไม่จัดให้มีจุดตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย หรือคัดกรองอาการป่วยในระบบทางเดินหายใจ ไม่อำนวยความสะดวกในการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร และจำกัดผู้ร่วมกิจกรรมมิให้แออัด ไม่จัดให้มีที่ล้างมือด้วย สบู่ แอลกอฮอล์ เจลหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ตลอดจนเข้าระบบแอพลิเคชั่นไทยชนะ จึงเป็นการร่วมกันชุมนุม มั่วสุมหรือจัดทำกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 20 คน ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคไวรัส โควิด-19 และฝ่าฝืนข้อกำหนดหรือคำสั่งที่ออกตาม มาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
ต่อมาวันที่ 6 ส.ค.2564 จำเลยได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาพนักงานสอบสวนแจ้งข้อเท็จจริงข้อกล่าวหาให้จำเลยทราบ ก่อนสรุปสำนวนให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้อง
ทั้งนี้ศาลได้ประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ 867 /2564 เพื่อนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานต่อไป
ภายหลัง นายสมบัติ จำเลย ได้คำร้องขอประกันตัว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยไม่ต้องมีหลักประกัน