ข่าว

"เช็กเสียงก่อนโหวต" ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯและ 5 รมต.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

การอภิปรายไม่ไว้วางใจดำเนินมาถึงวันชี้ชะตา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ 5 รมต. จะได้ไปต่อหรือพอแค่นี้ มา "เช็กเสียงก่อนโหวต" กันก่อน ใครจะอยู่ใครจะไป โอกาสรอดหรือร่วง

 

วันนี้ ( 4 ก.ย. )เป็นวันลงมติญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและ 5  รัฐมนตรี ดังนั้น "คมชัดลึก" ขอ "เช็กเสียงก่อนโหวต" มาตรวจสอบจำนวนเสียงรัฐบาลและฝ่ายค้าน มีจำนวนเท่าไหร่ ห่างกันมากน้อยแค่ไหน และหวังผลได้แค่ไหนกับการซักฟอกครั้งนี้ "ลุงตู่จะได้อยู่ต่อ" หรือ "พอแค่นี้" 

 

การลงมติญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ สำหรับรัฐมนตรีที่ถูกฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีทั้งสิ้น 6 คน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และรมต.จาก 3 พรรครัฐบาล คือพลังประชารัฐ ภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์ 

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน  รมว.เกษตรและสหกรณ์ 

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

สำหรับเสียงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะทำให้รัฐมนตรี ต้องพ้นจากตำแหน่งนั้น 

 

มาตรา  151 รัฐธรรมนูญ บัญญัติว่า "มติไม่ไว้วางใจต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร

 

และมาตรา 170 รัฐธรรมนูญ บัญญัติว่า ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวเมื่อ 

 

( 3 ) สภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่ไว้วางใจ

 

ส.ส.เท่าที่มีอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรขณะนี้มีจำนวน 482 คน (จากจำนวนเต็ม 500 คน) กึ่งหนึ่งก็คือ 241 คน

 

ดังนั้นรัฐมนตรีคนใด ถูกลงมติ “ไม่ไว้วางใจ” มากกว่ากึ่งหนึ่ง หรือ 242 เสียงขึ้นไป รัฐมนตรีคนนั้น ก็จะต้องพ้นจากตำแหน่งทันที

เสียงรัฐบาลvs.ฝ่ายค้าน

มาถึงตรงนี้ต้องมา "เช็กเสียงรัฐบาลและ "ฝ่ายค้าน" ว่าแต่ละฝ่ายมีมากน้อยกว่ากันเท่าไหร่ 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

จำนวน ส.ส.ที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้  482 คน แยกเป็น

- ฝ่ายรัฐบาล 276 คน

- ฝ่ายค้าน 206 คน

 

 รัฐบาล 276 เสียง ประกอบด้วย

-  พลังประชารัฐ 119 เสียง

- ภูมิใจไทย 61  เสียง 

- ประชาธิปัตย์  48 เสียง

- ชาติไทยพัฒนา 12  เสียง

- เศรษฐกิจใหม่ 5 เสียง

- รวมพลังประชาชาติไทย 5 เสียง

- พลังท้องถิ่นไท 5  เสียง

- ชาติพัฒนา 4  เสียง

- รักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 เสียง

-ก้าวไกล(แนวโน้มงูเห่า )  5 เสียง 

-กลุ่ม 9 พรรคเล็ก  9 เสียง 

 

 

"ฝ่ายรัฐบาล" นำโดย พรรคพลังประชารัฐ (119 เสียง )  ภูมิใจไทย (61 เสียง ) ประชาธิปัตย์ ( 48 เสียง ) ชาติไทยพัฒนา (12 เสียง ) รวมพลังประชาชาติไทย ( 5เสียง ) ชาติพัฒนา (4เสียง ) พลังท้องถิ่นไท ( 5เสียง) รักษ์ผืนป่าประเทศไทย   ( 2 เสียง ) เสริมด้วยเสียงของ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่ย้ายขั้วมา ( 5เสียง ) และกลุ่มพรรคเล็ก 9 เสียง

 

ขณะที่ ส.ส.จากพรรคก้าวไกล อีก 5 คน ซึ่ง 4 คน เคยโหวตเห็นชอบให้กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมา และล่าสุดโหวต งบฯ ปี 65 วาระ 3 ก็มีส.ส. จากพรรคก้าวไกล 5 คนโหวตเห็นชอบกับรัฐบาล และอีกเสียงจากนายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ ทำให้รัฐบาลมีอย่างน้อย 276 เสียง โดยยังไม่นับ “งูเห่าฝากเลี้ยง”

 

ฟาก "ฝ่ายค้าน" พรรคเพื่อไทย (134 เสียง) ก้าวไกล (48 เสียง) เสรีรวมไทย (10 เสียง) ประชาชาติ (6 เสียง ) เพื่อชาติ (5 เสียง ) พลังปวงชนไทย (1 เสียง ) บวกเพิ่มอีก 2  เสียง จากนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ พรรคเศรษฐกิจใหม่ และ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ พรรคไทยศรีวิไลย์ รวมแล้ว 206 เสียง

 

อย่างไรก็ตาม  เมื่อวันที่ 3 ก.ย.64  นายวิรัช  รัตนเศรษฐ ประธานกรรมการในคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร หรือ "วิปรัฐบาล"  เปิดเผยว่า  ส.ส.พรรคพลังประชารัฐติดเชื้อโควิด-19  จำนวน 1 รายและส.ส. จากพรรคภูมิใจไทยติดเชื้อ 1 ราย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา เนื่องจากวันนี้มีผู้ติดเชื้อ 15,000 ราย ถึง 20,000 รายต่อวัน ซึ่งคะแนนตอนนี้อยู่ที่ 269 เสียง พร้อมกับระบุว่าตอนนี้มีเสียงเกินกึ่งหนึ่งแล้ว

 

เมื่อพิจารณาจากการล็อบบี้เคลียร์ใจกันภายในพรรคพลังประชารัฐ อันเป็นผลสืบเนื่องจาก"ใครบางคนคิดการใหญ่" จนมีการขอโทษขอโพยและสงบศึกแล้ว กอปรกับ จำนวนเสียงฝ่ายค้านที่มีจึงต้องอยู่ในความสงบตามไปด้วย

 

โอกาสที่จะล้มรัฐบาลจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในครั้งนี้น่าปิดประตู สิ่งที่ฝ่ายค้านทำได้เหมือนศึกซักฟอกสองครั้งที่ผ่านมา คือ การใช้เวทีตามกติกาประชาธิปไตย  เขย่าเสถียรภาพและความชอบธรรมของรัฐบาลไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงวันที่พลพรรคมีโอกาสหวนคืนสู่อำนาจ 
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ