ตรวจสอบสิทธิรับเงิน "เยียวยานักเรียน2000" รับเงินเต็มจำนวน เช็กด่วนที่นี่
สพฐ.การันตีผู้ปกครองนักเรียน รับเงิน "เยียวยา2000" เต็มจำนวนได้ตลอดเวลา แม้พ้นวันที่ 7กันยายนแล้ว จนกว่าจะครบสิทธิ์ ทุกคนต้องได้รับไม่มีหักเงินทอน คาดภายในสัปดาห์นี้ ได้ตัวเลขนักเรียนตกหล่นและต้องเร่งช่วยเหลือ
วันที่ 7 กันยายน 2564 ตามมาตรการการจ่ายเงินเยียวยานักเรียน 2000 บาท ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะโอนช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา เพื่อบรรเทาผลกระทบช่วงสถานการณ์โควิด-19 ของผู้ปกครอง นักเรียน และนักศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทั้งสายสามัญศึกษา และสายอาชีพ ของรัฐและเอกชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ด่วน สพฐ.เปลี่ยนคำสั่งโยกเงิน “เยียวยานักเรียน” ให้รร.จ่ายตรงผู้ปกครอง
ด่วน “เงินเยียวยานักเรียน” ผู้ปกครองเด็กทุกคนรอรับได้เลย 3 กันยายนนี้
นายกฯ กำชับ “เงินเยียวยา" นักเรียน-นักศึกษา ต้องถึงมือผู้ปกครองเด็ก
บางโรงเรียนมีการจ่ายเงิน “เยียวยา2000” ไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 ทั้งในรูปแบบจ่ายเงินสด และโอนผ่านธนาคารกรุงไทย แต่ปรากฏว่ายังมีผู้ปกครองของนักเรียนอีกเป็นจำนวนมากที่มีสิทธิ์แต่ยังไม่ได้รับ“เยียวยา2000” ด้วยหลายปัจจัย
สถานศึกษาบางแห่งอาจไม่สามารถแจกจ่ายเงิน "เยียวยา2000" ได้ทันตามช่วงเวลาที่กำหนด อาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ,โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล,มีการย้ายสถานศึกษาของนักเรียน
กรณีที่ผู้ปกครองหรือนักเรียนที่ยังไม่ได้รับเงิน “เยียวยา2000”สามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้ตลอดเวลาตามนี้
สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) : https://student.edudev.in.th
สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) : https://www.vec.go.th
สังกัดสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) : https://opec.go.th
สังกัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ที่ สำนักงาน กศน.จังหวัด/อำเภอ และศูนย์การเรียนรู้ชุมชนหากไม่ได้รับเงินในช่วงเวลาดังกล่าว ให้ติดต่อโรงเรียน หรือสายด่วน 1579 และ 1693 #กระทรวงศึกษาธิการ
การจ่ายเงินให้กับผู้ปกครองหรือนักเรียน ในอัตรา 2,000 บาท ต่อนักเรียน 1 คน นั้นสถานศึกษาหรือโรงเรียนต้องจ่ายตามจำนวนนักเรียนที่มีตัวตนอยู่จริง ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2564 และต้องเรียนอยู่ในโรงเรียน ณ วันที่จ่ายเงิน
โดยการเบิกจ่ายสามารถดำเนินการได้ 2 วิธีคือ โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยผู้ปกครองหรือนักเรียน หรือจ่ายเป็นเงินสดให้กับผู้ปกครองหรือนักเรียน โดยโรงเรียนจ่ายเงินให้เต็มจำนวนไม่หักเงินค่าใช้จ่ายใดๆทิ้งสิ้น
ส่วนที่มีผู้กล่าวว่ามีการเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมโอนเงิน 50 บาทด้วยนั้น ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการ กพฐ. เคยชี้แจงว่าสถานศึกษาไม่สามารถทำได้และไม่เป็นความจริง เนื่องจาก สพฐ.ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ตามหนังสือที่ ศธ 04006/ว2730 ให้สถานศึกษาในสังกัดจ่ายเงินให้กับผู้ปกครองหรือนักเรียนเต็มจำนวน ไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ส่วนกรณีที่มีรายชื่อนักเรียนมีชื่อตกหล่น ทำให้ไม่ได้รับเงินเยียวยา ทั้งในกรณีนักเรียนย้ายเข้ามาจากสังกัดอื่น เช่น สำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นต้น
รวมทั้งนักเรียนที่มีตัวตนอยู่ในโรงเรียน ณ วันที่จ่ายเงิน แต่ไม่มีข้อมูลนักเรียนในระบบ DMC ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2564 ให้โรงเรียนรายงานข้อมูลเพื่อขอสนับสนุนเพิ่มเติม ไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และ สพฐ. เพื่อพิจารณาข้อมูลประกอบการจัดสรรเพิ่มเติมต่อไป
รายงานข่าวจาก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ระบุว่าการจ่ายเงินเยียวยา2000 นั้นสถานศึกษาสามารถดำเนินการได้ต่อเนื่องได้ตลอดเวลา
ขณะเดียวกันผู้ปกครองนักเรียนก็สามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้ตลอดเวลา แม้เกินกำหนดเวลาวันที่ 7 กันยายน 2564 ตามที่สพฐ.ได้อำนวยความสะดวกให้โรงเรียนเก็บข้อมูลการจ่ายเงินเยียวยานักเรียน คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะได้ข้อสรุปว่าเงินเยียวยานักเรียน2,000 บาท ไ้ด้ถึงมือผู้ปกครองนักเรียนหรือไม่ และจำนวนเท่าไหร่
ทั้งนี้ หากผู้ปกครองนักเรียน ที่รับเงิน “เยียวยา2000” โรงเรียนโอนผ่านธนาคารกรุงไทย และเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยของผู้ปกครองหรือนักเรียน ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการโอน50บาท
แต่หากเป็นการโอนข้ามธนาคารเป็นดุลพินิจของผู้บริหารสถานศึกษาว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้ผู้ปกครองนักเรียนต้องได้รับเงินเยียวยาครบเต็มจำนวนไม่มีหักเงิน