"คนไทยคิดสั้น" ส่ง See You Tomorrow ตัวช่วยลด "ฆ่าตัวตาย"
กรมสุขภาพจิต ส่ง “See You Tomorrow แล้วเจอกันวันพรุ่งนี้” ลดอัดตราการ "ฆ่าตัวตาย" ของคนไทยในช่วงสถานการณ์ยากลำบาก
กรมสุขภาพจิต เดินหน้ารณรงค์ด้านสุขภาพจิตเนื่องในวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลกประจำปี 2564 หรือ World Suicide Prevention Day 2021 โดยผลักดันแคมเปญ “See You Tomorrow แล้วเจอกันวันพรุ่งนี้” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนเห็นความสำคัญของความหวังและพลังใจในการฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ สามารถสร้างความหวังจากสิ่งเล็ก ๆ น้อยรอบตัวและส่งต่อให้คนรอบข้าง เพื่อพบกันในวันพรุ่งนี้ด้วยสุขภาพจิตที่ดีและลดการสูญเสียจากการฆ่าตัวตาย
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ในช่วงวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลกประจำปี 2564 หรือ World Suicide Prevention Day 2021 ซึ่งจะตรงกับวันที่ 10 กันยายน ของทุกปี กรมสุขภาพจิตได้ผลักดันและรณรงค์ เพื่อสร้างเสริมสุขภาพจิตที่ดีเพื่อลดการสูญเสียจากการฆ่าตัวตายในประเทศไทย โดยในปีนี้เป็นปีที่ประชาชนต้องพบเจอกับอุปสรรคมากมายจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนอย่างมหาศาล หลายคนรู้สึกหมดหวังและท้อแท้จากสถานการณ์ที่ต่อเนื่องยาวนาน เกิดภาวะเหนื่อยล้าจากโรคระบาดและปัญหาด้านสุขภาพจิตตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เพื่อเป็นการสร้างความหวัง และให้กำลังใจคนไทย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "กรมสุขภาพจิต" ชวน เช็ก 10 สัญญาณเสี่ยง "ฆ่าตัวตาย"
- "โควิด-19" ล็อกดาวน์ประเทศ ปัจจัยเสี่ยง ภาวะซึมเศร้าพุ่ง 2 - 3เท่า จากปกติ
- 5 สัญญาณเตือนในโลกโซเซียลจากผู้ป่วย"ซึมเศร้า" เสี่ยงทำร้ายตัวเอง
พญ.พรรณพิมล กรมสุขภาพจิตจึงผลักดันแคมเปญ “See You Tomorrow แล้วเจอกันวันพรุ่งนี้” เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงการสังเกตตนเองว่ามีความเสี่ยงในการรู้สึกสิ้นหวังหรือไม่
โดยสามารถสังเกตได้จาก
1. ความคิดและความรู้สึกที่สุดขั้ว เช่น รู้สึกไร้ทางออกโดยสมบูรณ์ รู้สึกผิดอย่างไม่สามารถให้อภัยได้ หรือโกรธเกลียดอย่างรุนแรง ซึ่งความคิดและความรู้สึกเช่นนี้เป็นปัจจัยนำไปสู่การสิ้นหวังหรือหมดใจได้ง่าย
2. รู้สึกยอมแพ้ไปหมด เชื่อมั่นว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว อาจบ่นและตำหนิมากขึ้นแต่ขาดแรงที่จะเดินเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่สถานการณ์ที่ดีขึ้น
3. แยกตัวจากสังคม ซึ่งยิ่งแยกตัวมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้ตัวเราเองนั้นจมอยู่กับความเชื่อและความสิ้นหวังของตนเองมากขึ้น การตัดขาดจากสังคมจะนำไปสู่ความวิตกกังวลและอาการซึมเศร้าที่มากขึ้น ก็จะยิ่งทำให้รู้สึกสิ้นหวังมากขึ้นตามไปด้วย
ซึ่งหากเราหรือคนใกล้ชิดมีความเสี่ยงต่าง ๆ เหล่านี้ อาจนำไปสู่ความรู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียด้านสุขภาพจิตและการเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตามทุกคนมีศักยภาพในการสร้างความหวังให้ตนเองและส่งต่อให้คนอื่นได้ โดยมีแนวทางที่สามารถปฏิบัติได้ดังนี้
1. สำรวจความคิดและอารมณ์ของตนเอง โดยหากมีลักษณะสิ้นหวังหรือสุดขั้ว ให้ลองพยายามปรับมุมมองและพยายามควบคุมความคิดและอารมณ์ให้คงที่เท่าที่จะทำได้
2. จัดการในสิ่งที่พอจัดการได้ โดยเริ่มแบ่งสัดส่วนของปัญหาต่าง ๆ โดยเริ่มจัดการเรื่องเล็กน้อยที่พอทำได้ก่อน แล้วจึงขยับไปจัดการเรื่องที่ใหญ่ขึ้น โดยพักเรื่องที่จัดการไม่ได้เอาไว้ก่อน
3. เชื่อมต่อกับคนรอบข้าง โดยเน้นการเปิดใจ พูดคุยกับคนในครอบครัว หรือคนที่สนิทและพร้อมที่จะรับฟัง
4. หาตัวอย่างของความหวัง โดยอาจหาได้จากสื่อต่าง ๆ หรือจากเรื่องราวจากคนรอบข้างที่ผ่านพ้นอุปสรรคมาได้ในอดีต เพื่อให้เชื่อมั่นว่าเราสามารถเติบโตจากวิกฤตได้
5. ช่วยสร้างความหวังให้ผู้อื่น โดยผ่านการทำงานจิตอาสาหรือช่วยเหลือคนที่กำลังยากลำบาก