มารู้จักอาชีพ "นักล่าต้นสาคู" ขายได้ต้นละ 1,600 บาท
มารู้จัก"อาชีพสร้างเงิน" "นักล่าต้นสาคู" ต้นทางของขนมหวานแสนอร่อย อาชีพที่หลงเหลือน้อย งานหนักแต่สร้างรายได้ดี
ขนมหวานสาคูที่ขายตามท้องตลาดส่วนใหญ่ทำมาจากแป้ง ถูกปั้นเป็นเม็ดเล็กๆ ก่อนจะถูกเอาไปทำเป็นขนมหวานสาคูที่รู้จักกันดี เพราะมีราคาถูกหาซื้อง่าย เป็นที่นิยมในกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า แต่สาคูจริงๆ นั้น เป็นต้นไม้ เรียกว่า ต้นสาคู เชื่อว่าหลายคนเคยเห็นหรือเคยกิน กว่าจะมาเป็นขนมอร่อยๆ ผ่านขั้นตอนมากมาย วันนี้จะพาย้อนกลับไปดูต้นทาง ทำความรู้จัก อาชีพนักล่าต้นสาคู
ผู้สื่อข่าวจังหวัด จ.สงขลา ลุยป่าพาไปรู้จักกับ บังเหล๊าะ ชาว อ.ละงู จ.สตูล ทำอาชีพนักล่าต้นสาคู บังเหล๊าะบอกว่า จะตระเวนไปยังที่ต่างๆ รับซื้อต้นสาคูจากชาวสวนต้น ส่งขายให้กลุ่มผลิตแห้งสาคู ที่บ้านหนองโต๊ะปาน ต.พนมวังก์ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นแหล่งผลิตแป้งสาคูจากต้นสาคูแท้ๆที่เหลืออยู่และอาจจะเป็นแห่งเดียวของภาคใต้หรือในประเทศไทยก็ว่าได้
บังเหล๊าะแนะวิธีสังเกตุต้นสาคูที่มีเนื้อแป้งคุณภาพดีและมีแป้งสาคู100เปอร์เซ็นต์ คือจะต้องเลือกต้นที่แทงยอดออกมาลักษณะเหมือนงาช้างหรือต้นที่มีดอก ถ้าต้นไหนมีลูกแล้วปริมาณแป้งจะน้อยมีไม่ถึง20เปอร์เซ็นต์
แต่ถ้าจะเช็คให้ดีว่าต้นสาคูต้นไหนมีแป้งที่ได้คุณภาพ ต้องลองชิม ถ้ารสฟาดถือว่า เป็นต้นที่มีคุณภาพ แต่ถ้ามีรสหวานแสดงว่าคุณภาพแป้งไม่ดี นักล่าต้นสาคู จะรับซื้อจากชาวสวนต้นละ 400 บาทและนำไปขายต่อ ต้นละ 1,500 - 1,600 บาท นับว่าสร้างรายได้อย่างดี
แม้จะทำรายได้สูง แต่เป็นงานที่ทั้งหนักและเหนื่อย ที่สำคัญตอนนี้ต้นสาคู หายากต้องตระเวนหาไปตามหมู่บ้านที่ยังพอมีป่าสาคูหลงเหลืออยู่ บางวันก็หาต้นสาคูพร้อมตัดได้ 3 ถึง4 ต้น แต่ก็ไม่ได้แบบนี้ทุกวัน
บังเหล๊าะ บอกว่า ต้นสาคู 1 ต้นจะได้แป้งสาคูประมาณ 100-200กิโลกรัมขึ้นอยู่กับความใหญ่และความสูงของต้น แต่เมื่อนำไปบดเป็นแป้งแล้ว ใน100กิโลกรัมจะเหลือแป้งสาคูจริงๆประมาณ 70 กิโลกรัมเท่านั้น เมื่อผ่านกระบวนการผลิตเป็นสาคูเม็ดแล้ว จะขายกันกิโลกรัมละ 130 บาท
หากคำนวณจากต้นทางจนถึงปลายทาง ต้นสาคู 1 ต้นสามารถเพิ่มมูลค่า จาก 400 บาท เป็น 9,100 บาท นับว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าที่สูงเกือบ 20 เท่า คุ้มค่ากับความเหนื่อยและความอร่อยที่ได้จากต้นสาคูเลยทีเดียว
นภาลัย ชูศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค คมชัดลึก จ.สงขลา