ตร.จับ ม็อบรายวัน แล้ว 511 คน ย้ำเน้นตั้งด่านสกัด ใช้กำลังตามสถานการณ์
รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แจงแนวทางรักษาความเรียบร้อย แยกดินแดง จับผู้ชุมนุมก่อความวุ่นวายได้แล้วกว่า 500 ราย ยืนยันเน้นการตั้งด่านสกัดป้องกันเหตุ ส่วนการใช้กำลังต้องขึ้นกว่าสถานการณ์
13 ก.ย.2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยถึงแนวทางการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่การชุมนุม แยกดินแดง ในวันนี้ ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจัดกำลังตามสถานการณ์และจากทางการข่าว เพื่อไม่ให้ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้รับผลกระทบ เนื่องจากขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมก่อความวุ่นวายเป็นรายวัน
โดยเมื่อวานนี้ มีการก่อเหตุวางเพลิงหลายพื้นที่และมีการวางตะปูเรือใบที่ถนนวิภาวดีรังสิต และสามแยกดินแดงรวมไปถึงทางลงอุโมงค์ดินแดง ส่งผลกระทบให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งยังมีการวิ่งตัดหน้ารถยนต์ของประชาชนผู้ใช้รถสัญจรไปมาจนเกิดการเสียหลัก
อ่านข่าวที่น่าสนใจ
- แจ้งความม็อบ "ทะลุแก๊ส" ปิดล้อม รุมยำรถตำรวจ
- "หมู่เบส" ตำรวจ คฝ. ถูกระเบิด ไปป์บอมบ์ อาการยังวิกฤต
- "ตำรวจนครบาล" ล่าตัวคนปล่อยข่าวเท็จ ถีบผู้ชุมนุมตก "แฟลตดินแดง"
สำหรับการชุมนุมในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาตำรวจสามารถดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมได้จำนวน 204 คดี มีผู้ต้องหาหรือผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 756 คน สามารถจับกุมได้ จำนวน 511 คน และเมื่อวานที่มีการชุมนุมนั้นเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย พร้อมยึดอาวุธปืนและมีระเบิดแสวงเครื่องและ ไปป์บอมป์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ จากนั้นก็จัดส่งดำเนินคดีต่อไป
ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมมีการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเพื่อสร้างความสับสนและความเข้าใจผิดให้กับประชาชนโดยต้องการที่จะปลุกปั่นจนเกิดความวุ่นวาย หากกลุ่มผู้ชุมนุมมีการเผยการเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ ถือว่ามีตวามผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตามมาตรา14 ซึ่งต้องประสานงานกันกับ ปอท. เพื่อ ดำเนิคดีอีกส่วนหนึ่ง ส่วนกรณีที่ผู้ชุมนุมได้ไปทำร้ายร่างกายประชาชนผู้สัญจรเดินทางกลับบ้านเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา ขณะนี้ได้ดำเนินการแจ้งความไว้แล้วโดยพนักงานสอบสวนเตรียมหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
ส่วนความคืบหน้ากรณีมีการยิงเด็กอายุ 14 ปี ก็ที่ตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งเป็นภาพใกล้ๆกับจุดเกิดเหตุขณะนี้ยังคงขาดพยานหลักฐานสำคัญแต่ก็สามารถที่จะออกหมายจับได้แต่อยากให้มีการพิสูจน์ทราบให้แน่ชัดกว่านี้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการตั้งด่านสกัด ตรวจค้นอาวุธ เกรงว่าผู้ชุมนุมจะนำเข้าไปก่อเหตุ อาจส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยรถต้องสงสัย และรถที่ไม่ติดป้ายทะเบียน จะถูกตรวจค้น ยืนยัน เจ้าหน้าที่ ใช้กำลังสมควรแก่เหตุตามสถานการณ์ ภายใต้กรอบของกฏหมาย ผ่อนหนักเบา ตามสถานการณ์
ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการออกมาแจ้งเตือนจากสถานทูตญี่ปุ่น ถึงการชุมนุม ว่าเป็นการออกมาเตือนตามวงรอบไม่ใช่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้นอย่างเป็นในประเทศอื่นเนื่องจากเป็นการรายงานจากฝ่ายความมั่นคงในส่วนของประเทศไทยนั้นได้มีการประสานงานทางด้านการข่าวจึงไม่ห่วงสถานการณ์ดังกล่าวนี้เนื่องจากสันติบาลและนครบาลได้ร่วมมือกันดูแลความปลอดภัยซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลพร้อมให้การสนับสนุน