เปิดใจลุงบัว "ประกาศขายไต" นายอำเภอเตรียมเข้าช่วยไกล่เกลี่ย
นายอำเภอเดชอุดมเดินหน้าช่วย "คุณตาประกาศขายไตตา" พร้อมประสานกรมบังคับคดีธนาคาร หน่อยงานที่เกี่ยวข้องไกล่เกลี่ยเรื่องบ้านที่ถูกยึด
เปิดใจลุงบัวประกาศขายไตหลังลูกชายติดคุกคดีร่วมกันฆ่าสิ้นหนทางประกาศขายไตตา นายบัวกันได้เล่าให้กับทีมข่าวคมชัดลึกว่า เมื่อประมาณ ปี 2551 ได้มีนายหน้าชักชวนให้นำเอาบ้านไปจดจำนองกับธนาคารแห่งหนึ่งโดยอ้างว่าตนไม่ต้องทำอะไรแค่ไปเซ็นเอกสารที่สำนักงานที่ดินตอนนั้นได้เงินสดมา 4 แสนบาท โดนนายหน้าหักไป 1 แสนบาท ตนได้รับเงิน จริงเพียงแค่ 3 แสนบาท และต้องผ่อนบ้านกับธนาคารเป็นงวดๆ ต่อมาทางธนาคารได้ติดต่อขอให้เปลี่ยนสัญญาใหม่เพราะตนอายุมากแล้วจึงได้เปลี่ยนสัญญาเป็นชื่อของนายคนโต
ต่อส่วนลูกชายอีกคนถูกตำรวจจับพร้อมกับเพื่อนรวม 5 คนในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น ลุงสุนันทา เล่าให้ทีมข่าวฟังว่าปกติลูกชายเป็นคนขยันทำงานเป็นพนักงานส่งของ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในอำเภอเดชอุดม วันเกิดเหตุลูกชายนอนอยู่ที่บ้านมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับกุมตัวไป แม้ลูกชายจะปฎิเสธว่าไม่ได้ฆ่าแต่ก็ต้องไปสู้คดีอยู่ในเรือนจำจนคดีถึงศาลอุทธรณ์ ศาลตัดสินจำคุกทั้ง 5 คน 24 ปี ทั้งหมดได้ยื่นฎีกาสู้คดีต่อแต่ลูกชายทนายยื่นไม่ทันจึงต้องรับโทษตามที่ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ส่วนคนอื่นศาลฎีกายกฟ้องเท่ากับลูกชายตกเป็นแพะติดคุกคนเดียว ปัจจุบันบ้านหลังนี้อยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 คน มีนายบัวกัน ภรรยา และหลาน 2 คน และลูกชายอีก 1 คน ตอนนี้ไม่มีรายได้อะไร ลูกชายทำงานก่อสร้างช่วงโควิดไม่มีงานทำ ส่วยรายได้ที่มีตอนนี้มีเพียงเดือนละ 1,200 บาทซื่อเป็นเงินชราภาพของตากับยาย
ล่าสุดนาย ธรรมนูญ แจ่มใส นายอำเภอเดชอุดม ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวคมชัดลึกว่า หลังทราบข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านแขมเจริญ ตำบลเมืองเดช อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี บ้านคุณตาสุนันทา พร้อมด้วย พ.ต.อ.วีรพันธ์ นาคสุข ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเดชอุดม นายอุบล พีระพรปัญญา ปลัดอาวุโสอำเภอเดชอุดม นายวิริยะ เสาทอง พัฒนาการอำเภอเดชอุดมและนายไชยวัฒน์ ศรีสว่าง ประธานชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านอำเภอเดชอุดม ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจ พร้อมหาทางช่วยเหลือกรณีนายบัวกัน อายุ 67 ปี ชาวอำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ติดป้ายประกาศขาย ตา ไต หวังแลกกับเงินเพื่อนำไปไถ่ซื้อบ้านคืน หลังนำบ้านเข้าไปจำนองธนาคาร เบื้องต้นทางด้านนาย ธรรมนูญ แจ่มใส นายอำเภอเดชอุดม จะพานายสุนันทา ไปทำการไกล่เกลี่ยที่กรมบังคับคดีโดยได้นัดหมายผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดอุบลราชธานี สาขาเดชอุดม และผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์สาขาอุบลราชธานีรวมทั้งผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเพื่อหารือในการดำเนินการประนอมหนี้ในวันนี้ 14 ก.ย. เวลา 13.00 น.เพื่อหาทางออกและช่วยเหลือครอบครัวของนายสุนันทา ส่วนเรื่องกรณีของรายทางด้านนายอำเภอได้มีการประสานกับ กลุ่มกองทุนพัฒนาสตรี เพื่อให้ภรรยายของนายสุนันทาเข้ามาเป็นสมาชิกเพราะเห็นว่าครอบครัวนี้ทำขนมจีนและเลี้ยงด้วงมะพร้าวจำหน่าย สามารถที่จะทำการกู้ยืมเงินจากกลุ่มกองทุนพัฒนาสตรีเดชอุดมได้โดยต้องทำเรื่องถึงกลุ่มกองทุนแล้วส่งไปยังจังหวัดเพื่ออนุมัติซึ่งดูแล้วไม่น่ามีปัญหาเพราะเป็นการนำเงินมาลงทุนประกอบกิจการและดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 0.10 เท่านั้นเป็นทางออกที่จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นดีกว่าไปกู้เงินนอกระบบ