"ทนายตั้ม" ยันไม่ได้รับงานใครหลังนำคลิป "อดีตผู้กำกับโจ้" ส่งให้จเรตำรวจ
"ทนายตั้ม" ษิทรา เบี้ยบังเกิด เผยที่มาคลิปเหตุการณ์ "ผู้กำกับโจ้" ได้มาจากตำรวจชั้นผู้น้อย ยืนยันไม่ได้รับงานใคร มาโจมตี
14 ก.ย.2564 นายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เปิดเผยกับสื่อมวลชน หลังเดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิชรอง จเรตำรวจแห่งชาติ และพนักงานสอบสวน ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการจเรตำรวจตรวจสอบวินัยร้ายแรง เพื่อให้ปากคำในประเด็นคลิป พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ "ผู้กำกับโจ้" อดีตผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ โดยใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง
อ่านข่าวที่น่าสนใจ
- ทนายษิทรา เปิดทรัมไดร์ฟ ที่มาคลิปลับ "ผู้กำกับโจ้"
- "ราชทัณฑ์" ไม่นิ่งนอนใจ ปม จนท.เรือนจำ เรียกเงินแลกเลื่อนชั้นนักโทษ
- "สันติบาล" ยังไม่พบสิ่งบ่งชี้ "ก่อการร้าย" ในไทย แจงญี่ปุ่นเตือนตามวงรอบ
- รองจเรตำรวจแห่งชาติ ปัดตอบ คดีนายพล ขน "เหล้าเถื่อน"
- รวบทันควัน มือแทงหนุ่ม "ช่างแอร์" ดับ อ้างโดนแย่งสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า
"ทนายตั้ม" ระบุว่า นำคลิปที่ได้โพสต์ในโซเชียล มามอบให้กับคณะกรรมการจเรตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบในคดี "ผู้กำกับโจ้" กับพวกรวมทั้งหมด 7 นาย ของ สภ.เมืองนครสวรรค์ ซ้อมทรมานผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต ก่อนที่จะนำเข้าสู่สำนวนคดี
เบื้องต้นทราบว่า คณะกรรมการจเรตำรวจ ได้ดำเนินการแจ้งข้อหาผิดวินัยร้ายแรงกับตำรวจทั้ง 7 นายแล้ว โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งให้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว อีกทั้งการสอบปากคำในวันนี้ ทางคณะได้สอบถามถึงที่มาของคลิปดังกล่าว โดยตนเองได้ให้ข้อมูลว่ามาจากตำรวจชั้นผู้น้อยนายหนึ่งและหลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก ซึ่งทางคณะกรรมการฯก็ไม่ได้กดดันให้บอกรายละเอียดทั้งหมด รวมทั้งการเข้าให้ปากคำในวันนี้ถือว่าตัวเองเป็นปากสุดท้ายในฐานะพยาน พร้อมยืนยันว่าตัวเองไม่ได้รับงานมาจากใครเพื่อโจมตีอดีต "ผู้กำกับโจ้" หรือกลั่นแกล้ง เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยเจอและไม่เคยรู้จักกับตำรวจทั้ง 7 นายเป็นการส่วนตัว ส่วนอดีต "ผู้กำกับโจ้" ยอมรับว่าเคยเจอเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ขณะเดียวกันคณะกรรมการจเรตำรวจ เปิดเผยการสอบสวนเบื้องต้นว่า มีมติแจ้งผิดข้อหาวินัยร้ายแรงกับตำรวจทั้ง 7 นาย ส่วนคลิปที่ได้รับจาก ทนายตั้ม นั้น จะนำส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานดำเนินการตรวจพิสูจน์ตามขั้นตอนเพื่อนำเข้าสู่สำนวนคดี รวมถึงตรวจสอบวิเคราะห์คัดแยกเสียงในคลิปดังกล่าว เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติม อาทิได้มีการเรียกรับเงินหรือไม่ โดยคาดว่าจะทราบผลการตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้ และในสัปดาห์หน้าและเข้าแจ้งข้อกล่าวหาผิดวินัยร้ายแรงกับตำรวจทั้ง 7 นาย ที่เรือนจำกลางคลองเปรม เพื่อให้ทั้ง 7 ราย ชี้แจงข้อเท็จจริงตามกระบวนการพิจารณาโทษต่อไป