ข่าว

"ตั๊น จิตภัสร์"   รับฟังข้อชี้แจง จาก "ผบช.น."รถผู้ต้องขัง ชนเยาวชนร่วมชุมนุม

"ตั๊น จิตภัสร์" รับฟังข้อชี้แจง จาก "ผบช.น."รถผู้ต้องขัง ชนเยาวชนร่วมชุมนุม

14 ก.ย. 2564

"ตั้๊น จิตภัสร์ กฤดากร" รองประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ เข้ารับฟังข้อชี้แจงจากผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ถึงเหตุการณ์รถผู้ต้องขัง ชนเยาวชนจนได้รับบาดเจ็บ ที่แยกดินแดง พร้อมติดตามความคืบหน้ากรณีเผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติ

นางสาว "จิตภัสร์ กฤดากร" รองประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เป็นตัวแทนเข้าพบ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับกรณีรถยนต์ควบคุมผู้ต้องหาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชนผู้ชุมนุมบริเวณแยกดินแดง เมื่อคืนวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา และเผาทรัพย์สินของทางราชการ โดยเฉพาะซุ้มเฉลิมพระเกียรติ หลังมีผู้ร้องเรียนในประเด็นนี้เพิ่มเติม เนื่องจาก ตำรวจนครบาล ได้มีการชี้แจงข้อเท็จจริงและขั้นตอนในการควบคุมฝูงชนไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ประเด็นนี้ เป็นประเด็นใหม่ จึงต้องการทราบข้อมูลเพิ่ม เพื่อเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ชุดใหญ่ ในวันที่ 16 กันยายนนี้ 
 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

​​​​​​​

 

​​​​​​​โดย นางสาว "จิตภัสร์" เปิดเผยภายหลังการประชุม ตนเองไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ เพียงแต่มารับฟังข้อเท็จจริงของทั้งสองฝ่าย รวบรวมข้อมูล เพื่อเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมาธิการ ในวันพฤหัสนี้เท่านั้น ว่าคณะฯจะพึงพอใจหรือไม่ หากคณะกรรมการชุดใหญ่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ก็อาจมีการเรียก พล.ต.ท.ภัครพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เข้าชี้แจง ถึงกรณีดังกล่าว กับกรรมาธิการตำรวจสภาผู้แทนราชฎร ตนเองได้รับฟังถึงการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น โดยการปฏิบัติหน้าที่ของเจเาหน้าที่ตำรวจก็ต้องให้มีขอบเขต อยากให้ยึดหลักสากลเป็นหลัก และไม่จำเป็นต้องเรียกเยาวชนที่ได้รับบาดเจ็บเพื่อมาให้การเพิ่มเติมแต่อย่างใด 

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ทราบถึงตัวผู้กระทำผิด ที่ก่อเหตุเผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการติดตามตัวมาดำเนินคดี ยังไม่แน่ชัดว่าจะออกหมายเรียก หรือหมายจับ ส่วนกรณีที่เยาวชนถูกรถควบคุมผู้ต้องหาชนจนได้รับบาดเจ็บนั้น จะมีการเรียกเยาวชนคนดังกล่าว พร้อมผู้ปกครองเข้าชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกด้วย

อีกทั้งยืนยันว่า ไม่มีความหนักใจ ในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ถูกตรวจสอบ พร้อมระบุว่า ทุกการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย สามารถตรวจสอบได้