ข่าว

จบดราม่า "ลุงบัวกัน" หลังประกาศขายไต หลังนายอำเภอนำทีมช่วยเหลือ

จบดราม่า "ลุงบัวกัน" หลังประกาศขายไต หลังนายอำเภอนำทีมช่วยเหลือ

14 ก.ย. 2564

สยบดาราม่าลุงบัวกัน "ยกเลิกประกาศขายไตตา" หลังนายอำเภอเดินทางให้ความช่วยเหลือเคลียร์ ปัญหาเรื่องบ้านและสร้างรายได้ให้กับครอบครัว

จากกรณีที่ชายวัย 67 ปีประกาศขายไตตาเพื่อนำเงินมาจ่ายค่าบ้านหลังถูกธนาคารยึด ล่าสุด นายธรรมนูญ แจ่มใส นายอำเภอเดชอุดม ได้ให้ข้อมูลกับทีมข่าวคมชัดลึกว่า ได้เดินทางไปกับ นายบัวกัน สุนันทา อายุ 67 พ.ต.อ.วีรพันธ์ นาคสุข ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเดชอุดม เจ้าหน้าที่ธนาคารอาคารสงเคาระห์ นายอุบล พีระพรปัญญา ปลัดอาวุโสอำเภอเดชอุดม นายวิริยะ เสาทอง พัฒนาการอำเภอเดชอุดมและนายไชยวัฒน์ ศรีสว่าง ประธานชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านอำเภอเดชอุดม โดยได้ประชุมหารือเพื่อหาทางออกให้ ซึ่งได้ข้อสรุปว่า ทางธนาคารอาคารสงเคราะห์มี โครงการบ้านล้านหลังให้กับประชาชนที่มีรายได้น้อย โดยนายบัวกันเองอยากได้บ้านหลังเดิมเพราะมีความผูกพันกับบ้านหลังนี้เป็นเวลานาน จึงมีการเสนอให้ลูกชายคือ นายสมร สุนันทา ลูกชาย มีอาชีพเป็นคนงานก่อสร้างและภรรยาย ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านตำบลเมือง อำเภอเดชอุดม โดยให้ลูกชายและภรรยาเดินทางไปทำเรื่องเสนอต่อธนาคารอาคารสงเคราะห์กับโครงการบ้านล้านหลังเพื่อทำการ "จองปิด" กับทางธนาคารอาคารสงเคราะห์สาขาเดชอุดม

จบดราม่า \"ลุงบัวกัน\" หลังประกาศขายไต หลังนายอำเภอนำทีมช่วยเหลือ

จบดราม่า \"ลุงบัวกัน\" หลังประกาศขายไต หลังนายอำเภอนำทีมช่วยเหลือ

นายธรรมนูญ แจ่มใส นายอำเภอเดชอุดม ให้ข้อมูลกับคมชัดลึก ต่ออีกว่าทางอำเภอได้ทางอำเภอได้ให้ นายสมร ซึ่งเป็นลูกชายได้ให้ไปทำเรื่องกับศูนย์ดำรงค์ธรรมที่อำเภออุบลราชธานีเพื่อที่จะขอเป็นผู้ซื้อบ้านหลังดังกล่าว และให้หน่วยงานที่ เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปที่บ้านเพื่อเก็บข้อมูลให้กับทางธานาคารในการต่อรองขอลดราคากับทางธนาคาร เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีการประกาศขายตอนแรกในราคาห้าแสนกว่าบาท จนตอนนี้ราคาพุ่งสูงถึงแปดแสดกว่าบาท ซึ่งการประสานงานในครั้งนี้ เพื่อให้ทางกรมบังคับคดีได้อนุมัติตัดสินว่า เป็นผู้ที่สมควรที่จะได้รับความช่วยเหลือโดย นายอำเภอเดชอุดม จะเป็นผู้ค้ำประกันซึ่งจะทำให้มีนำหนักสมควรได้รับการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ ส่วนในเรื่องของการประกาศขายไตกับตาของนายบัวกันกันนั้นถือว่าผิดกฎหมาย นายบัวกันได้ประกาศขอยกเลิกการขายไตและตา

นอกจากนี้ นางพชร เตชะตานลท์ คณะบดี เจ้าของธุรกิจปั๊มน้ำมัน ได้มีการติดต่อให้ครอบครัวของ นายบัวกัน สามารถนำของเข้าไปขายภายในปั๊มน้ำมันโดยไม่คิดค่าเช่า เนื่องจากเห็นว่าก่อนหน้านี้ครอบครัว สุนันทา ไม่สามารถนำของไปขายที่ตลาดได้เนื่องจากสถานการณ์โควิด ส่วนเรื่องเงินลงทุนในการซื้อของมาขายทางด้านนายอำเภอได้ประสานให้ภรรยาของ นายบักันเข้าร่วมเป็นสมาชิกกับกลุ่มกองทุนพัฒนาสตรีเดชอุดมเพื่อที่จะได้กู้เงินมาประกอบกิจการต่อไป